ขอพันล.ตั้งกองทุนเยียวยา ดันแก้ขยะ-นํ้าเสียจ.ระยอง
กองทุนเยียวยาอีอีซี เริ่มใช้ปีหน้า สกพอ.ชงขอจัดสรรงบประมาณปี 2563 ประเดิม 1 พันล้านบาท ดูแลประชาชนในพื้นที่ พร้อมดันงบสิ่งแวดล้อม อีก 967 ล้านบาท แก้ปัญหาขยะ และนํ้าเสีย ในจ.ระยอง
ภายใต้พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือพ.ร.บ.อีอีซี ได้กำหนดให้มีการตั้งกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกขึ้นมา เพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ ชุมชน และประชาชนที่อยู่ภายในหรือที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซีใน 3 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง โดยเบื้องต้นกำหนดให้ใช้งบประมาณแผ่นดิน 1,000 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและชุมชน และช่วยเหลือ หรือเยียวยาประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาในอีอีซี รวมทั้งใช้ในการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา หรือให้ทุนการศึกษาแก่ประชาชนที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นเป็นสำคัญ
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในการตั้งกองทุนฯดังกล่าวน่าจะเป็นรูปธรรมในปีงบประมาณ 2563 หลังจากที่ได้ส่งเรื่องให้สำนักงบประมาณพิจารณาอยู่ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะผ่านการพิจารณากลั่นกรองหรือไม่ หากสามารถเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในช่วงปลายปีนี้ และผ่านความเห็นชอบได้ การนำเงินจากกองทุนฯมาใช้เยียวยา ก็น่าจะเริ่มได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การจัดสรรงบประมาณให้กับกองทุนฯมีความล่าช้ามาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 รวมถึงการเร่งรัดของบกลางปีไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการจัดสรร จึงต้องนำเรื่องเสนอในปีงบประมาณ 2563 ใหม่
นอกจากนี้ ในส่วนของ งบบูรณาการอีอีซี ยังได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2563 ในส่วนของแผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อีอีซี ในระยะ 4 ปี (2561-2564) ของกระทรวงมหาดไทย วงเงิน 967.7 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีขนถ่ายขยะมูลฝอยชุมชน(ศูนย์อำเภอแกลง จังหวัดระยอง) วงเงิน 104.5 ล้านบาท โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบฝังกลบขยะมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาลภายในศูนย์กำจัดรวมแบบครบวงจร จังหวัดระยอง วงเงิน 80 ล้านบาท โครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและระบบบำบัดนํ้าเสียรวมอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง วงเงิน 380 ล้านบาท และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการนํ้าเสียในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง วงเงิน 403.2 ล้านบาท
ทั้งนี้ การขอจัดสรรงบดังกล่าว เป็นไปตามแผนสิ่งแวดล้อม ในระยะเร่งด่วน ที่ผ่านมาความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(กพอ.) ไปแล้ว จากทั้งหมด 14 โครงการ วงเงินลงทุน 8,555 ล้านบาท โดยเป็นงบจากภาครัฐที่ต้องไปดำเนินงานถึง 4,281 ล้านบาท
หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3485 ระหว่างวันที่ 7 - 10 กรกฎาคม 2562
