LGTชี้ไทยมีช่องลดดอกเบี้ยนโยบาย เหตุอัตราเงินเฟ้อต่ำ และรักษาส่วนต่างดอกเบี้ยไทย-เทศ สกัดเงินไหลเข้า ลดผลกระทบค่าเงินบาท
นายสเตฟาน โฮเฟอร์ กรรมการผู้จัดการและหัวหน้านักยุทธศาสตร์ การลงทุนในทีมบริการด้านการลงทุนของแอลจีที เอเชีย(LGT Bank Asia)เปิดเผยว่า ตลาดกำลังจับตาตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐที่จะประกาศในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2562 หากตัวเลขออกมาดี อาจเห็นธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ชะลอการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย จากที่ผ่านมา ตลาดคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมหรือกันยายน ซึ่งแอลจีทีประเมินว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในสิ้นปีนี้ แต่ขึ้นกับข้อมูลตามสถานการณ์ด้วย
สำหรับประเทศไทยยังมีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ หรือการขยายตัวของสินเชื่ออยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อไม่ให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยสหรัฐและไทยห่างกันมากเกินไปจนกระทบต่อเงินบาท
สำหรับทิศทางการลงทุนนั้น สัญญาณจากดัชนีของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)และดัชนี S&P500 สะท้อนความผันผวนสอดคล้องกันตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านระยะ 6 เดือนถึง 1 ปี จึงแนะนำนักลงทุนปรับพอร์ตลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงในต่างประเทศ เช่น ตราสารทุน/หุ้น ในสัดส่วน 48% อีก 40% ลงทุนใน ตราสารหนี้ พันธบัตร ที่เหลือเลือกลงทุนทั้งกองทุนรีทส์ กองทุนอสังหาริมทรัพย์และ ทองคำ โดยให้น้ำหนักลงทุนหุ้นสหรัฐและ ยุโรป 50:50
"เราคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐปีนี้และปีหน้ายังเดินหน้าได้ โดยระยะสั้นอาจเห็นการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนมีการเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจะลงรับสมัครเลือกตั้งอีกหนึ่งสมัย แต่แนวโน้ม อาจเห็นเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยในปี2564"