‘เจาะพอร์ต’  เจ้าพ่อหุ้น VI 5 หมื่นล้าน

04 ก.ค. 2562 | 01:50 น.

การลงทุนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะในตลาดหุ้น ที่จะเจอกับความผันผวนของราคา ที่ถูกสิ่งเร้าต่างๆ มากมายเข้ามากระทบให้ราคาหุ้นขึ้นและลง ไม่ว่าจะเป็น การเมือง เศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย นโยบายรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันไม่ใช่แค่ปัจจัยในประเทศอย่างเดียวด้วย สิ่งที่พูดถึงแม้เกิดขึ้นในต่างประเทศ ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงต่อราคาหุ้นในไทย ดังนั้นใครที่รับความผันผวนเหล่านี้ไม่ได้ จะมองหาหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีความมั่นคง และมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต เข้าไปซื้อเพื่อหวังเงินปันผล และราคาหุ้นที่จะเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว ไม่ใช่หวังเพียงราคาขึ้นลงระยะสั้น เราเรียกคนเหล่านี้ว่า นักลงทุนหุ้นคุณค่า หรือ VI
 

นักวิเคราะห์มองว่า “นิติ โอสถานุเคราะห์” นักลงทุน VI อันดับ 1 เมืองไทย คือเศรษฐีหุ้นที่มีความมั่งคั่ง เนื่องจากมีการถือหุ้นกระจายความเสี่ยงพอร์ตในหลายบริษัทที่มีความมั่นคง พื้นฐานดี จึงมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถยืนในอันดับ 1-10 เศรษฐีหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ เศรษฐีหุ้น 90% มาจากการถือหุ้นเพียง 1 บริษัท และอยู่ในช่วงที่เป็นวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจนั้นๆ ทำให้ธุรกิจมีความน่าสนใจเข้าลงทุนมากกว่า

เมื่อเจาะลึกลงไปในการลงทุนพบว่า “นิติ” ลงทุนในหุ้นอย่างน้อย 11 บริษัท มูลค่าการถือครองหุ้น ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เกือบ5 หมื่นล้านบาท ประกอบ ด้วย  ประกอบด้วย บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP มูลค่า 16,995 ล้านบาท บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT มูลค่า 15,004 ล้านบาท บริษัท โฮม 
โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO มูลค่า 10,874 ล้านบาท บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มูลค่า 3,717 ล้านบาท บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL มูลค่า 1,282 ล้านบาท 

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI มูลค่า 736 ล้านบาท บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA มูลค่า 583.5 ล้านบาท บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ SNP มูลค่า 88 ล้านบาท บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IRC มูลค่า 70 ล้านบาท บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE-ED มูลค่า 11 ล้านบาท และ บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) หรือ OGC มูลค่า 11 ล้านบาท

หน้า 2 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3484 วันที่ 4-5 กรกฎาคม 2562

‘เจาะพอร์ต’  เจ้าพ่อหุ้น VI 5 หมื่นล้าน