รัฐบาลลุงตู่จ๋า! กล้ามั้ย ‘สกัดค่ายา’ ที่แพงบรรลัย

02 ก.ค. 2562 | 11:58 น.

คอลัมน์ทางออกนอกตำรา ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3484 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 4-6 ก.ค.2562 โดย... บากบั่น บุญเลิศ

 

รัฐบาลลุงตู่จ๋า! กล้ามั้ย

‘สกัดค่ายา’ ที่แพงบรรลัย

 

                29 กรกฎาคม 2562 นับเป็นวันดีเดย์ที่สถานพยาบาลทั่วประเทศ จะต้องจัดทำรายละเอียดต้นทุนราคาซื้อ และราคาขายยา รวมถึงแจ้งราคาซื้อ-ขายเวชภัณฑ์ และราคาค่าบริการทางการแพทย์ให้กับประชาชนได้รับทราบ ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการที่ได้ลงนามในประกาศ ฉบับที่ 52 พ.ศ.2562 เรื่อง การแจ้งราคา การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขเกี่ยวกับการจำหน่ายยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562

 

รัฐบาลลุงตู่จ๋า! กล้ามั้ย ‘สกัดค่ายา’ ที่แพงบรรลัย

                ประกาศฉบับนี้ มีผลให้สถานพยาบาลทั่วประเทศร่วม 350-400 แห่ง จะต้องเผยแพร่ราคาค่าบริการทั้งหมดที่คิดจากผู้ป่วยที่มาใช้บริการในการรักษาพยาบาลให้รับทราบ ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หรือผ่านทางคิวอาร์โค้ด ที่เป็นการบอกโค้ดยาแต่ละชนิด

                ถือเป็นประวัติศาสตร์ของการปฏิรูปการคิดค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลที่เก็บจากผู้ป่วย ที่ประชาชนคนไทยควรแซ่ซ้องสรรเสริญรัฐบาล

                เนื่องจากภายใต้ประกาศดังกล่าว ได้กำหนดให้โรงพยาบาลเอกชน ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่ายส่ง ต้องแจ้งราคาซื้อ-ราคาจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการ ตามรายการที่อยู่ในบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (UCEP) กว่า 3,892 รายการ ถือเป็นการนำร่องของการควบคุมราคา

                สถานพยาบาลใดเปรี้ยว...ไม่แจ้งราคาซื้อ-ราคาจำหน่ายตามที่ประกาศกำหนด จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี /ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง

 

รัฐบาลลุงตู่จ๋า! กล้ามั้ย ‘สกัดค่ายา’ ที่แพงบรรลัย

รัฐบาลลุงตู่จ๋า! กล้ามั้ย ‘สกัดค่ายา’ ที่แพงบรรลัย

                ในระยะกลางจะนำไปสู่การควบคุมและให้แจ้งรายการยาตามรหัสบัญชีข้อมูลยาและรหัสยามาตรฐานไทย (TMT) ที่มีบัญชียาอยู่กว่า 32,000 รายการ บัญชีเวชภัณฑ์ 868 รายการ และค่าบริการทางการแพทย์อีก 5,286 รายการ

                ปลายทางของประกาศฉบับที่ 52 พ.ศ.2562 เรื่อง การแจ้งราคา การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขเกี่ยวกับการจำหน่ายยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล จะทำให้ราคาค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน มีอัตราที่ลดลงจากปัจจุบัน เนื่องจากการแข่งขันราคากันอย่างเปิดเผย เทียบเคียงได้

                เสียงอื้ออึงในหมู่เจ้าของสถานพยาบาลที่หากินกับผู้ป่วยร้องระงมกับมาตรการนี้ว่า “เกาไม่ถูกที่คัน”

                เสียงคัดค้านดังก้องมาจากกระทรวงสาธารณสุขว่า ประกาศของกระทรวงพาณิชย์ฉบับนี้ ไปทำลายธุรกิจโรงพยาบาลที่เอกชนลงทุนมาดูแลสุขภาพของผู้คนในประเทศแทนรัฐบาล ที่ไม่ขาดงบประมาณในการดูแลการรักษาพยาบาลในแต่ละปี

                เสียงดังอึงมี่...จากท่านํ้านนท์ว่า บรรดาเศรษฐี นายทุนในกลุ่มสถานพยาบาล ธุรกิจยา เวชภัณฑ์ ต่าง พยายามล็อบบี้รัฐบาลอย่างเต็มที่ในการระงับยับยั้งมิให้มีการล้วงลึกลงมา “ควบคุมราคาค่ายา-ค่าหมอ”

                ผมขอบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในแผ่นดิน เพราะในปัจจุบันประชาชนคนไทยแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการไปหาหมอที่สูงมาก สูงชนิดที่ทำมาหาได้เท่าไหร่ ยามเจ็บป่วยไข้ ค่าหมอ ค่ายา กินไปจนหมดตัว...หรือว่าใครจะเถียง!

                ไปดูผลการตรวจสอบข้อมูลสำหรับราคายาของโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งให้ตาแจ้งกันครับพี่น้อง

                ราคาซื้อกับราคาขายห่างกัน 29.33% ถึงสูงสุด 8,766.79% ราคาในยา เวชภัณฑ์ชนิดเดียวกัน แต่มีราคาต่างกันตั้งแต่ 10.80 บาท ถึงสูงสุด 28,862 บาท กำไรค่าหมอ ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ บริการทางการแพทย์แตกต่างกันตั้งแต่ 47% ไปจนสูงสุด 16,566% อก...ออเจ้าจะแตกตาย...

                ดังนั้น เมื่อมีการปฏิรูปค่าหมอ-ค่ายา สมควรที่คนไทยทุกคนจะต้องให้ความสนใจ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินการให้เข้มข้นรัดกุม อย่าให้ประกาศฉบับนี้เป็นเพียงแค่ “ประกาศเอาหน้า...ทำไป ทำมา ประทานโทษครับ...หมาไม่แด๊ก”

รัฐบาลลุงตู่จ๋า! กล้ามั้ย ‘สกัดค่ายา’ ที่แพงบรรลัย

                อย่าปล่อยให้โอกาสทองในการดูแลค่ารักษาพยาบาลให้เป็นธรรม สมเหตุผล ต้องหลุดมือไปโดยเด็ดขาด

                เนื่องเพราะประกาศฉบับนี้ และแผนปฏิบัติของกรมการค้าภายในที่เดินตามกรอบประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการนั้น ทั่นวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กำลังทำงานใหญ่ให้ผู้บริโภคมีทางเลือก

                ขนาดว่ามีการกำหนดให้โรงพยาบาลเอกชนแสดง QR Code ที่เป็นเสมือนข้อมูลเปรียบเทียบราคาจำหน่ายยาที่จัดทำไว้อย่างเปิดเผย ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยสะดวก

                โรงพยาบาลเอกชนจะต้องประเมินค่ารักษาเบื้องต้นให้ผู้ป่วยทราบ และต้องแจ้งราคายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยทราบ ก่อนจำหน่ายหรือให้บริการ เมื่อผู้ป่วยร้องขอ

                ในการจำหน่ายยาสำหรับผู้ป่วยนอกให้โรงพยาบาลต้องออกใบสั่งยาตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรม และใบแจ้งราคายา ให้ผู้ป่วยทราบล่วงหน้า ทั้งในใบสั่งยาห้ามเขียนแบบชาวบ้านอ่านไม่รู้เรื่อง อย่างน้อยต้องประกอบด้วยชื่อสามัญทางยา ชื่อทางการค้า รูปแบบยา ขนาดหรือปริมาณ จำนวน วิธีใช้ ระยะเวลาในการใช้ ส่วนใบแจ้งราคายาต้องประกอบด้วยชื่อยาตามใบสั่งยาและราคาต่อหน่วย

                ใครไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี /ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รัฐบาลลุงตู่จ๋า! กล้ามั้ย ‘สกัดค่ายา’ ที่แพงบรรลัย

                อีกทั้งยังมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการในส่วนกลางและส่วนจังหวัดเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย กรณีมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการรักษาพยาบาลที่เกินความจำเป็น หรือคิดค่าบริการรักษาพยาบาลสูงเกินสมควร หากคิดราคาสูงเกินสมควรจริงจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี /ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

                เรื่องดีๆ แบบนี้...ทำไมผู้คนจึงไม่ออกมาร่วมเชียร์และผลักดันให้รัฐบาลลุงตู่ทำให้สำเร็จ...

                นี่คือเรื่องของการเมืองที่กินได้...นี่คือเรื่องนโยบายที่คลายความทุกข์ยากของผู้คนในสังคม

                ทำไมคนถึงไม่สนใจ...