FETCO มองจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าไม่กระทบเงินลงทุน

03 ก.ค. 2562 | 00:08 น.

 

FETCO มองจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าไม่กระทบเม็ดเงินลงทุนทั้งของไทยและต่างชาติ เชื่อส่วนใหญ่ให้ความสำคัญที่นโยบายมากกว่าตัวบุคคล เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว ปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน 

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยถึงกรณีปัญหาการเมืองในประเทศ ว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนไทยและต่างชาติ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญต่อนโยบายมากกว่าตัวบุคคลที่จะมานั่งเป็นรัฐมนตรี โดยขณะนี้เป็นเพียงการต่อรองและเจรจาเก้าอี้ที่เหลือเพียง 1-2 ตำแหน่งเท่านั้น ถือเป็นเรื่องปกติของนักการเมือง แต่ภาพรวมการลงทุนเชื่อว่าระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้น และมีโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวเกิน 1,800 จุดได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่องที่คาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท

 

ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว ปรับเพิ่มขึ้น 25.50% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 109.44 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากคาดว่าจะมีปัจจัยบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่, การไหลเข้าออกของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ และนโยบายการเงินของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย ส่วนปัจจัยลบมาจากความล่าช้าของการจัดตั้งรัฐบาล, ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

FETCO มองจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าไม่กระทบเงินลงทุน

ไพบูลย์  นลินทรางกูร

“นักลงทุนยังไม่ให้นํ้าหนักกับประเด็นข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ เนื่องจากมองว่าเป็นเพียงกระแสข่าวเพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีเท่านั้น โดยตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งประเมินว่าครึ่งปีหลังจะมีเงินไหลเข้ามาอีก 60,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ไหลเข้ามาแล้ว 50,000 ล้านบาท จะช่วยผลักดันดัชนีหุ้นไทยให้ขยายตัวต่อเนื่อง โดยจากการวิเคราะห์พบว่าทุก 10,000 ล้านบาท จะทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น 20 จุด ทำให้หุ้นไทยมีโอกาสเกิน 1,800 จุดอย่างแน่นอน”

 

ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศและกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศอยู่ในระดับทรงตัว ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับร้อนแรงอย่างมาก และดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนรายบุคคลเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับทรงตัว สำหรับหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดบริการรับเหมาก่อสร้าง ส่วนหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ ขณะที่ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ นโยบายภาครัฐ และปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ 

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3484 วันที่ 4-6 กรกฎาคม 2562

FETCO มองจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าไม่กระทบเงินลงทุน