Instawash สตาร์ตอัพไทย พร้อมเติบใหญ่ระดับรีจินัล

07 ก.ค. 2562 | 04:00 น.

จุดเริ่มต้นของสตาร์ตอัพ คือการนำเทคโนโลยีมาแก้ไข Pain Point ทำเรื่องยากที่แสนจะน่ารำคาญใจอย่างการล้างรถ ให้กลายเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย และไม่ทำร้ายเงินในกระเป๋า แถมมาด้วยคุณภาพงานที่ดี  บริการถึงที่ และที่สำคัญ Eco Friendly อีกต่างหาก 2 หนุ่มไฟแนนซ์ ดีกรีนอก “เมหราน ซาห์รออี” และ “จักษวัชร์ อรรถสกุลชัย” และเพื่อนชาวเกาหลีใต้ ร่วมกันคิดและศึกษา จนก่อตั้งเป็น Instawash ดีลิเวอรีคาร์วอชเมื่อประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา โดยมีแผนที่จะขยายบริการใหม่ๆ จนกลายเป็นดีลิเวอรีคาร์แคร์แบบครบวงจรในที่สุด

แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น “เอ็ม-เมหราน” ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของธุรกิจว่า สิ่งที่พวกเขาคิดและทำไม่ได้เป็นอะไรที่ใหม่ซะทีเดียว เพราะบริการล้างรถมีมานานแล้วในเมืองไทย เช่นเดียวกับบริการดีลิเวอรี ก็มีให้บริการในหลายๆ ธุรกิจ แต่เมื่อเขานำทั้ง 2 สิ่งมารวมกัน ถือเป็นการแก้ Pain Point และเติมเต็มความต้องการบริการในธุรกิจล้างรถให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานบริการ การให้บริการถึงที่แบบรวดเร็วทันใจ โดยลูกค้าไม่ต้องขับรถออกไปปั๊ม หรือสถานที่รับล้างรถ แล้วต้องนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ และเมื่อขับรถกลับยังอาจต้องไปเจอฝนทำให้รถเปื้อนอีก หรือบางครั้งเจอปัญหาของหาย ล้างรถไม่สะอาด พนักงานมารยาทไม่ดี
สิ่งเหล่านี้ คือ โจทย์ของบริการ ที่นำมาแก้ไขปรับปรุงด้วยการคัดเลือกและตรวจสอบพนักงาน พร้อมทั้งมีการเทรนด์วิธีการล้าง มารยาท การทำความรู้จักรถยนต์ อบรมเป็นเวลา 1 เดือนและต้องผ่านการทดสอบก่อนที่จะเริ่มทำงาน

Instawash สตาร์ตอัพไทย พร้อมเติบใหญ่ระดับรีจินัล

การให้บริการทุกครั้ง ผู้ให้บริการของ Instawash ต้องแสดงตัวตน แสดงไอดีการ์ด ใส่ยูนิฟอร์ม ใส่ถุงมือ และที่สำคัญต้องบันทึกการทำงานทุกครั้ง ผ่านกล้อง GoPro ที่จะติดอยู่บนหมวกของพนักงานตลอดเวลา 

ส่วนสำคัญของบริการอีกอย่างหนึ่งคือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมบริการ เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว เพียงแค่เลือกใช้บริการผ่านแอพ หรือไลน์ ของ Instawash ปักโลเกชัน พนักงานก็จะเดินทางไปถึงภายใน 20-30 นาที ระยะเวลาการล้างตั้งแต่ 30-45 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง ในราคาบริการตั้งแต่ 320 บาท ไปจนถึง 550 บาท แล้วแต่ประเภทบริการ ซิลเวอร์ โกลด์ และแพลทินัม ซึ่งขณะนี้เริ่มขยายบริการไปถึงการให้บริการล้างรถบิ๊กไบค์ และสกูตเตอร์ทั้งหลายแล้ว

“อีกหนึ่งความแตกต่างของเราคือ เราเป็น EcoFriendly ให้บริการด้วยกระเป๋าเป้สีฟ้าใบเดียว ใช้นํ้า 2-3 ลิตร ก็ทำสะอาดรถได้ทั้งคัน โดยไม่รบกวนนํ้าในที่พักอาศัยของเจ้าของรถเลย”

“เจ - จักษวัชร์” อธิบายว่า ธุรกิจที่ผสมผสานกับเทคโนโลยี หรือธุรกิจด้านไอทีทั้งหลาย สามารถแบ่งออกเป็น 3 สเตต สเตตแรก คือ อินฟราสตรักเจอร์ เช่น เคเบิล ไอทีสเตตที่ 2 คือ ซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม เช่น แอปเปิล กูเกิล
เฟซบุ๊ก ส่วนสเตต 3 คือ การนำธุรกิจที่ทำกันอยุ่ทุกวันนี้ ขึ้นมาเป็นออนไลน์กึ่งแพลตฟอร์ม เป็นการให้เซอร์วิสที่ถึงลูกค้าจริงๆ เป็นบริษัทที่ขายเซอร์วิส ขายสินค้าจริงๆ แบบ O2O หรือ Offline to Online ซึ่งบอกได้เลยว่า ธุรกิจในรูปแบบของ O2O คือธุรกิจที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต และ Instawash ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจรูปแบบของ O2O นั่นเอง

หากจะถามว่า ทำอย่างไรธุรกิจของ Instawash จึงจะขยายตัวได้ เรื่องนี้ผู้ก่อตั้งทั้ง 2 ตอบตรงกันว่า ด้วยคุณภาพบริการ จนได้รับการบอกต่อแบบปากต่อปาก ทำให้พวกเขามีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีพาร์ทเนอร์รายใหญ่ อาทิบีเอ็มดับเบิลยู และบริษัทรถซูเปอร์คาร์ ซึ่งขณะนี้ Insatawash กำลังเตรียมขยายบริการใหม่ๆ เพิ่มเติม พร้อมทั้งขยายทีมงาน ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20 คน โดยผู้เรียกใช้บริการ มีตั้งแต่ระดับผู้บริหาร คนทำงานทั่วไป และแม่บ้าน 

เนื่องจากคุณภาพและบริการ เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนให้ธุรกิจเดินหน้า นอกจากจะให้ความสำคัญกับการคัดเลือกทีมงานแล้ว การดูแลบุคลากรที่มีอยู่ จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการบริหาร ที่คนหนุ่มทั้งคู่ใส่ใจอย่างมาก บรรดาทีมงานที่เข้ามาร่วมทีมจะต้องมี Career Path ที่ชัดเจน มีโอกาสเติบโตในตำแหน่งหน้าที่ จากพนักงาน ไปสู่ ซูเปอร์ไวเซอร์ และผู้จัดการเขต รวมไปถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยรูปแบบการบริหารของ Instawash จะไม่ซับซ้อนเหมือนองค์กรทั่วไป แต่เน้นความคล่องตัวทั้งการขับเคลื่อนและการปรับตัวอย่างรวดเร็ว 

ปัจจุบัน Instawash ให้บริการใน 20 เขตกรุงเทพฯ และกำลังจะขยายให้ครบ 50 เขต รวมทั้งขยายไปในภูมิภาคอาเซียน อาทิ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ในลักษณะของแฟรนไชส์ 

พวกเขามีแผนจะเพิ่มยอดการล้าง และจะเพิ่มเอสเคยูใหม่ๆ เช่น บริการที่เป็นแอดออนเซอร์วิส มีบริการมากขึ้นอย่างออฟชันลงแวกซ์ และอื่นๆ โดยจะทำให้ Instawash เป็น One Stop Solution ของคาร์แคร์ อาทิ ประกันรถ และอื่นๆ โดยจะพัฒนาแอพพลิเคชัน เพื่อรองรับบริการใหม่ๆ ที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

Instawash สตาร์ตอัพไทย พร้อมเติบใหญ่ระดับรีจินัล

“เราอยากให้บริษัทเป็น Data Driven เปิดแอพเราแล้วแก้ปัญหาเกี่ยวกับรถได้หมด เรามีเอสเคยูที่อยู่ใน Pipelineอยู่แล้ว และต่อไปเรากำลังพัฒนาเซอร์วิสที่นำดาต้าเข้ามาใช้ โดยทุกคนจะต้องวินวินไปด้วยกัน ซึ่งเราเรียกว่าเป็น 3 เหลี่ยมผู้ได้ชัยชนะ ซัพพลายเออร์วิน คัสตอมเมอร์วิน และบริษัทวิน ทั้ง 3 แฟกเตอร์ ต้องชนะไปด้วยกัน โดยเราเริ่มต้นจากบริการล้างรถก่อน เป็นประตูเปิดไปสู่ลูกค้า สร้างความไว้วางใจ หลังจากนั้นเราจะ Full Service” 

ขณะนี้ Instawash กำลังรอระดมทุน (fundraising) ระดับซีรีส์ เอให้ได้เร็วที่สุด ระหว่างนี้คือ ระดมทุนรอบ Pre-Series A “เอ็ม” บอกว่า ดาต้าที่มีอยู่สามารถทำมาร์เก็ตติ้งได้เยอะมาก แต่สิ่งที่พวกเขาอยากได้คือ คนที่มีวิชันเดียวกัน เราต้องหาพาร์ตเนอร์ที่เข้าใจวิชันของเรา เราจะไม่ขายของแล้วให้คนอื่นไปทำ เราต้องการคนที่ไม่ขัดแย้งกับ Car Wash Eco Friendly ของเรา 

หากระดมทุนได้สัก 1-2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พวกเขาก็พร้อมที่จะขยายทีม จัดตั้งศูนย์เทรนนิ่ง และขยายบริการไปสู่ระดับภูมิภาค โดยการจับมือกับพาร์ตเนอร์ ด้วยการบริการที่มีสแตนดาร์ดเดียวกันทั้งหมด 

สิ่งที่ผู้ก่อตั้งหนุ่มทั้ง 2 ต้องการ และอยากจะเป็นคือ การเป็นสตาร์ตอัพไทย ที่สามารถขยายและเติบโตได้ในระดับภูมิภาค (regional) และขยายไปสู่ระดับโลก พวกเขากำลังขับเคลื่อนด้วยกลไกการทำงานที่พร้อมเรียนรู้และปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ต้องการ

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,484 วันที่ 4 - 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Instawash สตาร์ตอัพไทย พร้อมเติบใหญ่ระดับรีจินัล