สหภาพกทพ. ทำหนังสือ ค้านขยายสัญญาสัมปทานด่วน2ให้” BEM”

27 มิ.ย. 2562 | 09:46 น.

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 (วันนี้)  สหภาพ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(สร.กทพ.) ได้ยื่นหนังสือ ขอคัดค้านการขยายระยะเวลาของสัญญาสัมปทานให้กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ จำกัด (BEM) ทั้งนี้ ตามหนังสือที่อ้างถึงสหภาพแรงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) ได้มีหนังสือเรียน ประธานกรรมการประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(บอร์ดกกพ.)และ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)  เพื่อขอให้นำควมเห็นความห่วงใยของพนักงาน ผู้บริหารและ สร.กทพ. ไปประกอบการพิจารณาแนวทางแก้ไขญหากรณีข้อพิพาทกับผู้รับสัมปทานและตามหนังสือที่อ้างถึง สร.กทพ. ขอคัดค้านการขยายระยะเวลาของสัมปทานและการดำเนินการการดำเนินการูที่ยังไม่มีความชัดเจนใน เรื่องต่างๆ โดยเฉพะเรื่องการบันทึกบัญชีตามมาตฐานการบัญชีที่ทำให้ กทพ. เสียหาย นั้นสร.ภกพ. ทราบว่าประธานกรรมการกทพ. และผู้ว่าการการทางพิเศษฯยังคงเร่งรีบดำเนินการ

โดยการทำระเบียบวาระ เรื่องความเห็นเกี่ยวกับร่างสัญญาของสำนักงานอัยการสูงสูดเวียนให้คณะกรรมการ กทพ. ทราบเพื่อที่จะนำเรื่องการขยายสัญญาสัมปทานส่งให้กระทรวงคมนาคม ร่วมทั้งมีบันทึก เรื่องการยุติข้อพิพาท และดำเนินโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช รวมถึงส่วนดี) และทางด่วนสายบางปะอิน-ปาก

เกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา)ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ส่งให้ปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี โดยที่ยังมิได้ดำเนินการตามข้อสังเกตของสำนักงานอัยการแต่อย่างใด รวมทั้งยังมีได้มีหนังสือสอบถมสภาวิชาชีพบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีตามความเห็นของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน

อีกทั้งมิได้มีความพยายามที่จะหาความชัดเจนในบันทึกบัญชีแต่อย่างใด สร.กทพ.ขอให้ประธานกรรมการกทพ.และผู้ว่าการกทพ.ชะลอหรือยุติการดำเนินการส่งเรื่องดังกล่าวให้

กระทรวงคมนาคม พร้อมทั้งขอให้มีหนังสือสอบถามสภาวิชาชีพบัญชีให้ได้ความชัดเจนก่อนตามที่ประธานกรรมการ กทพ. ได้แจ้งกับพนักงานลูกจ้างผู้บริหารและประชาชนผ่านสื่อทุกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นการ

ลงบัญชี "ถ้ามีการบันทึกบัญชีทำให้กทพ.เสียหายจากการต่อขยายระยะเวลาสัญญาสัมปทาน เพื่อแลกกับการยุติข้อพิพาทจะยุติการดำเนินการใดๆเพื่อเป็นการต่อระยะเวลาของสัญญาสัมปทาน"

สหภาพแรงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) ขอคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานที่ไม่เป็นไปตามมติครม. 2 ตุลาคม 2561 ว่าให้หน่วยงานของรัฐนั้นอาจดำเนินการเจรจาต่อรองกับคู่พิพาทเพื่อบรรเทาความเสียหายของรัฐและให้เกิดความเป็นธรรมแก่ราษฎร ทั้งนี้ให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส ชอบด้วยกฎหมาย และคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ