จับแล้ว 4 ยอดเสียชีวิตพุ่ง 18 กัมพูชายังคงค้นหาเหยื่อโรงแรม 7 ชั้นถล่ม
จากเหตุการณ์อาคาร 7 ชั้นที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในเมืองสีหนุวิลล์ จังหวัดพระสีหนุ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกัมพูชา ได้ถล่มลงมาในช่วงเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และผู้สูญหาย ซึ่งล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตในซากอาคารคอนกรีตได้ขยับขึ้นจาก 3 คนในวันแรกเป็น 18 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ได้รับรายงานมีจำนวน 23 คน แต่ที่สร้างความกังวลคือผู้สูญหายซึ่งยังไม่ทราบจำนวน เนื่องจากได้รับรายงานว่าโดยปกติแล้วสถานที่ก่อสร้างอาคารดังกล่าวจะมีคนงานอยู่ในพื้นที่ราว 50 คน
เหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้เป็นกรณีอาคารกำลังก่อสร้างถล่มลงมาเป็นครั้งแรกในเขตสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ของกัมพูชา สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาแล้ว 4 คน เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ประกอบด้วยนายเฉิน คุน สัญชาติจีน อายุ 39 ปี เป็นผู้เช่าที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคาร นายเติ้ง ซิง กุย ชาวจีนอายุ 48 ปี เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง นายเกา ยู่ ชาวจีนอายุ 29 ปี เป็นผู้รับเหมาผลิตกำแพงคอนกรีตสำเร็จรูป และนายเน็ก ฮุย ชาวกัมพูชา อายุ 65 ปี เป็นเจ้าของที่ดิน สื่อระบุว่าอาคารดังกล่าวจะก่อสร้างเป็นโรงแรมของนักลงทุนชาวจีน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุของการถล่มลงมาน่าจะเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคและปัญหาโครงสร้าง บุคคลทั้ง 4 ที่ถูกจับกุมจะถูกสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเป็นลำดับต่อไป
ในด้านการให้ความช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยยังคงรื้อเศษซากคอนกรีตและอิฐปูนในพื้นที่ก่อสร้างเพื่อค้นหาผู้ที่ยังอาจมีชีวิตรอดที่ติดค้างอยู่ใต้ซากปรักหักพัง โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่ 150 คนประจำการในพื้นที่เพื่อปฏิบัติการค้นหา มีการนำเฮลิคอปเตอร์บินวนเหนือพื้นที่เพื่อตรวจหาผู้ประสบภัยจากทางอากาศด้วย
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า การถล่มของอาคาร 7 ชั้นดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในเวลาเช้าตรู่ประมาณ 04.30 น. แต่การเข้าให้ความช่วยเหลือก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว
เมืองสีหนุวิลล์เป็นเมืองใหญ่สุดในจังหวัดพระสีหนุ เป็นฐานการลงทุนยอดนิยมติดชายฝั่งอ่าวไทย รองรับทุนต่างชาติ โดยเฉพาะทุนจีนหลั่งไหลมามากเป็นพิเศษในด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว และสถานคาสิโน สีหนุวิลล์ยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเขตเศรษฐกิจพิเศษของทุนจีนที่มีความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ 1 แถบ 1 เส้นทาง หรือ Belt and Road Initiative (BRI) ของรัฐบาลจีน ทำให้บรรยากาศการค้าการลงทุนเป็นไปอย่างคึกคัก รวมทั้งอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วรองรับทุนจีนและนักท่องเที่ยวชาวจีน