IoT-AI ปลุกเครื่องใช้ไฟฟ้า2.5แสนล.มีเฮ
IoT/AI ดันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า 2.5 แสนล้านบาทเมืองไทยคืนชีพ เผยครึ่งปีแรกมือถือ เครื่องปรับอากาศรับทรัพย์ ปัจจัยบวกส่งสัญญาณปลุกตลาดสดใส จับตาร้านค้า-ผู้ประกอบการจัดหนักเข็นสินค้านวัตกรรม โปรโมชันล่อใจ
ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยมูลค่ากว่า 2.5 แสนล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น 3% หลังจากตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมาภาพรวมอุตสาหกรรมมีการเติบโตเพียง 1-2% เท่านั้น ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว โดยช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาภาพรวมตลาดเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาบ้างแล้ว โดยปัจจัยหลักคือการเข้ามาของนวัตกรรม IoT และ AI ที่ไดรฟ์ตลาดให้กลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง จากเดิมที่มองว่าเป็นแค่การเซ็ตซิสเทมและการสร้างคอนเซปต์การทำตลาดจากผู้ประกอบการเท่านั้น หากแต่ปีนี้การเข้ามาของเทคโนโลยี 5G ถือเป็นอีกหนึ่งความพร้อมของตลาดที่จะตอบโจทย์เทคโนโลยีดังกล่าว ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มปรับเปลี่ยนมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านวัตกรรมใหม่มากขึ้น ทำให้ปีนี้ถือเป็นปีที่สำคัญที่ IoT จะเข้ามาไดรฟ์ตลาดแบบเต็มตัว
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้าเพาเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะ มอลล์ กรุ๊ปฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยถือว่าเติบโตดี ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังจากนี้การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ที่เข้าสู่ตลาดและการพัฒนาของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะระบบสื่อสารไร้สายความเร็วสูง 4G 5G IoT และ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในสินค้าและบริการ ทั้งทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน มือถือ ที่เป็นปัจจัยสำคัญขับเคลื่อนตลาดเติบโตได้ดีอีกครั้งในรอบ 3 ปี โดยกลุ่มสินค้าที่จะได้รับความนิยมในครึ่งปีหลังคือสินค้าในกลุ่มมือถือและทีวี ที่จะเข้ามาเป็นสินค้าสำคัญในการผลักดันยอดขาย
จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล
ทั้งนี้ในส่วนของเพาเวอร์มอลล์ในปีนี้ จะยังคงให้ความสำคัญกับการรุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านเทรนด์สินค้าที่ทันสมัยและบริการที่ดีแก่ลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย ในเครือข่ายสาขาเพาเวอร์มอลล์เมกะสโตร์ ที่กระจายครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและล่าสุดได้ทุ่มงบกว่า 120 ล้านบาท จัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเลคโทรนิก้า โชว์เคส” รวบรวมสินค้านวัตกรรม IoT AI ของเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ กล้องดิจิทัล คอมพิวเตอร์ สินค้า ไอที เกม 200 แบรนด์ดังมาลดราคาพร้อมโปรโมชันพิเศษในทุกสาขาที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้-14 กรกฎาคม 2562 ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายเติบโตในช่วงจัดงาน 15% จากครั้งที่แล้ว
อย่างไรก็ตามจากการเดิน หน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่องมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายรวมปีนี้เติบโตที่ 5% อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายรวมเติบโต 9% โดยคาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเติบโต 3% จากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตเพียงแค่ 1-2% และมีมูลค่าอยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มมือถือครองสัดส่วนตลาดใหญ่สุด 45% หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท เครื่องปรับอากาศ มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 30%, กลุ่มคอม พิวเตอร์ มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท โต 10%, ทีวี มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท โต 10% ขณะที่กลุ่มสินค้าที่ไม่เติบโต เช่น กลุ่มกล้องถ่ายรูป มูลค่าตกลงเหลือ 7,000 ล้านบาท จากเดิมที่ก่อนหน้านี้สูงถึง 1 หมื่นล้านบาท ตกลงมากกว่า 20-30%, กลุ่มสินค้าเอวี เครื่องเสียง เป็นต้น
ด้านนายนิพนธ์ วงษ์แสง อรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดทีวีเมืองไทยในปีนี้ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใสอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเข้ามาของเทคโนโลยี IoT และทีวีจอใหญ่ เป็นต้น โดยภาพรวมตลาดทีวีช่วง 4 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตที่ 2-3% และช่วงเดือน พ.ค.-ก.ค. คาดว่าติดลบ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกระแสฟุตบอลที่ตลาดเติบโตสูงมาก 20% แต่คาดว่าในช่วงเดือนส.ค.ไปจนถึงสิ้นปีตลาดจะค่อยๆเติบโตขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่นิยมเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจนถึงระดับทรงตัวที่มูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา
สำหรับแผนงานของบริษัทในปีนี้ได้ใช้งบการตลาดประมาณ 400 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ทำโปรโมชัน และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้สินค้าผ่านสื่อต่างๆ โดยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้า AI ที่มีระบบสั่งงานด้วยเสียง ล่าสุดได้เปิดตัวทีวีใหม่ทั้งหมด 32 รุ่น ใน 4 ตระกูลคือ OLED TV, 4K, นาโนเซลล์ และLED โดยที่ 30 รุ่นเป็นการใช้งานระบบเอไอ ซึ่งเน้นขนาดจอใหญ่ 50 นิ้วขึ้นไปเป็นหลัก เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ปัจจุบันนิยมรับชมทีวีจอใหญ่และราคาเฉลี่ย 2 หมื่นบาท ลดลงประมาณ 10% ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นทำให้สัดส่วนยอดขายทีวีในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 35% เป็น 43% ตั้งเป้าหมายช่วยผลักดันให้ยอดขายทีวีของแอลจีในสิ้นปีนี้เติบโตเพิ่มจาก 5% เป็น 15% และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มจาก 22% เป็น 25% เป็นอันดับ 2 ในตลาด พร้อมกันนี้ยังตั้งเป้าขึ้นผู้นำ 4K จากแชร์ 30% เป็น 36% ปีนี้
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3481 ระหว่างวันที่ 23-26 มิถุนายน 2562