วินฟาสต์...BMWเวอร์ชันเวียดนาม
ภายใต้นโยบายกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีของรัฐบาลเวียดนาม หวังสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ของตนเองให้แข็งแกร่ง ซึ่งที่ผ่านมาการส่งออกรถยนต์จากไทยโดนพิษสงกันไปถ้วนหน้า
ในภูมิภาคอาเซียนมีไทยและอินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตใหญ่ของแบรนด์ญี่ปุ่น หรืออยู่ในฐานะประเทศรับจ้างผลิต ทว่าเวียดนามมุ่งมั่นเดินหน้าไปในอีกเส้นทาง คือการสร้างแบรนด์ของตนเอง และหนึ่งในผลผลิตนั้นคือ “วินฟาสต์” (VINFAST) ในเครือวินกรุ๊ป กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของประเทศ
“วินฟาสต์” เป็นบริษัท ผู้ผลิตรถยนต์ของเอกชน (จะเรียกเป็นแบรนด์รถยนต์แห่งชาติได้หรือเปล่า?) โดยใช้คำแทนตัวเองว่าสตาร์ตอัพในการก่อตั้งบริษัทในปี 2560 และปีที่แล้ว สร้างความฮือฮาด้วยการนำรถไปอวดโฉมสู่สายตาชาวโลกในงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2018 พร้อมเชิญเซเลบนักฟุตบอลคนดัง “เดวิด เบ็คแฮม” มาร่วมงานพร้อมรถยนต์ 2 โมเดลคือ เอสยูวี รุ่น LUX SA2.0 และซีดาน รุ่น LUX A2.0
แบรนด์รถยนต์สัญชาติเวียดนาม ชูจุดขายคือการใช้เทคโนโลยีเยอรมนี ตั้งแต่กระบวนการผลิต รวมถึงโปรดักต์ที่พัฒนาบนแพลต ฟอร์ม(เก่า)ของบีเอ็มดับเบิลยู ตลอดจนเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่ต่อยอดการพัฒนาใหม่ และการออกแบบที่สวย งามจากอิตาลีโดย “พินินฟารินา”
อย่างเอสยูวี LUX SA 2.0 มิติตัวถังยาว 4,940 มม. กว้าง 1,960 มม. สูง 1,773 มม. ระยะฐานล้อ 2,933 มม.ระยะตํ่าสุดจากพื้น 192 มม. ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC ขนาด 2.0 ลิตร VVT ไดเร็กต์อินเจ็กชัน เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 228 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังลงสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของ SF ราคาขายประมาณ 1.5 ล้านบาท โดยการส่งมอบจะเริ่มภายในไตรมาส 3 ปีนี้
โรงงานวินฟาสต์ในเมืองไฮฟอง ทางตอนเหนือของเวียดนาม ได้ผลิตรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น และเริ่มส่งไปทดสอบคุณภาพใน 14ประเทศ 4 ภูมิภาคทั่วโลก ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนเป้าหมายการผลิตตั้งเป้า5แสนคันภายใน 6 ปี
นอกจากเก๋งซีดานและเอสยูวี เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรที่เป็นฝีมือการพัฒนาของทีมวิศวกรวินฟาสต์โดยตรงแล้วยังมีทางลัดอย่างเก๋งเล็กรุ่น“ฟาดิล” เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร ที่ได้สิทธิ์การผลิตมาจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส ด้วยการนำ เชฟโรเลต สปาร์ค มาปรับการออกแบบใหม่ และแปะป้ายขายในแบรนด์ วินฟาสต์ ราคาประมาณ 5.3 แสนบาท ซึ่งรถพร้อมส่งมอบแล้ว
นอกจากรถยนต์นั่งทั้ง 3 รุ่น วินฟาสต์ยังมีโปรดักต์อย่างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ทำตลาดในปัจุบันและในอนาคตมีแผนพัฒนารถพลังงานไฟฟ้า100% ในตัวถังอื่นๆ รวมถึงรถบัสด้วย
ถือเป็นการก้าวที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์รถน้องใหม่จากเวียดนาม แต่ต้องมาดูว่าตัวเลขเป้าหมายต่างๆที่หวังไว้จะทำได้จริงแค่ไหน เพราะระยะทางข้างหน้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,480 วันที่ 20 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562
