ส่อง‘บอร์ดทีโอที’ทัวร์นอก บินฟรีพ่วงค่าแต่งตัว
แม้ว่าการแก้ไขปัญหาขาดทุนของ 2 องค์กรรัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสารของไทย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) มีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 มีมติเห็นชอบแผนการควบรวม 2 บริษัทเป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จในเดือน พฤศจิกายนนี้
หลังจากครม.อนุมัติได้เพียง 2 วัน ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริษัท สำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอทีฯ ก็ได้มีการเสนอแผนการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านเทคโนโลยีของกรรม การบริษัทประจำปี 2562 หรือแผนศึกษาดูงานต่างประเทศให้ที่ประชุมบอร์ดทีโอทีพิจารณา จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในวงพนักงาน พร้อมตั้งคำถามตัวโตๆ ถึงความจำเป็นในการไปดูงานครั้งนี้
ต่อไปนี้คือเหตุผลที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริษัท สำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ พยายามอธิบายถึงความสำคัญของการไปศึกษาดูงาน ดังนี้
1. ตามหลักการและแนวทางการกำกับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังให้ความสำคัญกับคณะกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ถือหุ้นในการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ โดยคณะกรรมการต้องมีองค์ความรู้เพื่อกำกับดูแลให้ฝ่ายจัดการปฏิบัติหน้าที่ได้ตามวัตถุประสงค์และนโยบายของรัฐ และกำหนดแนวทางการพัฒนาคณะกรรมการว่า คณะกรรมการควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้ได้รับการอบรมและพัฒนาศักยภาพและความรู้ที่จำเป็นต่อการ ปฏิบัติหน้าที่
2. บมจ.ทีโอที ได้กำหนดแผนพัฒนาองค์กรระยะยาว 10 ปี (ปี 2561-2570) แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ. 2562-2566 โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยการนำระบบ Digital มาปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนขององค์กร กำหนดทิศทางธุรกิจที่มุ่งเติบโตในธุรกิจดิจิทัลและโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมีแผนการดำเนินงานที่มีวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากเทคโน โลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
ทั้งนี้ได้กำหนดแผนงาน/โครงการสำคัญระยะ 3 ปี 2562-2564 ที่สำคัญ เช่น แผนการให้บริการ Digital Service แผนทดสอบให้บริการ Infrastucture Sharing สำหรับ 5G Testbed แผนการสรรหาพันธมิตรธุรกิจ แผนพัฒนาโครงข่าย 5G แผน Cyber Security แผน Cloud Computing Service แผน Application & Software และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อรองรับ EEC เป็นต้น
3. ปัจจุบันบริการด้านโทรคมนาคมได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วตามแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งมีบทบาทสูงมากขึ้นตามทิศทางอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและนโยบาย Thailand 4.0 บมจ.ทีโอที เป็นองค์กรที่ให้บริการทางด้านโทรคมนาคมที่จำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพการให้บริการและนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาบริการใหม่ๆ อย่างสมํ่าเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถแข่งขันและรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ให้ได้ คณะกรรมการบริษัทซึ่งมีหน้าที่กำหนดนโยบายและทิศทางองค์กร จึงควรได้รับการอบรม ศึกษา ดูงานด้านเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาศักยภาพและความรู้ทางด้านนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยีใหม่
ฝ่ายเลขาฯคณะกรรมการบริษัทจึงเห็นควรนำเสนอแผนการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านเทคโนโลยีของกรรมการบริษัท ประจำปี 2562 โดยกำหนดจัด การศึกษาดูงานเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจของ บมจ.ทีโอที จำนวน 2 ครั้ง ประกอบด้วยการศึกษาดูงานนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล ในงาน “MWC Shanghai 2019” ซึ่งเป็นงานนิทรรศการที่จัดควบคู่กับการประชุมผู้มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกว่า 60,000 คนรวมตัวกันเพื่อสำรวจว่าการเชื่อมต่ออัจฉริยะจะกำหนดอนาคตดิจิทัลของอุตสาหกรรมและโลก ระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2562 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
อีกงานคือการศึกษาดูงาน e-Government และ Cyber Security ช่วงเดือนกันยายน 2562 เพื่อประโยชน์ต่อการกำหนดทิศทางและนโยบายในการให้บริการดิจิทัลแก่หน่วยงานภาครัฐซึ่งเป็นทิศทางธุรกิจของบมจ.ทีโอที ที่กำหนดบทบาทสำคัญของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการแก่ภาครัฐ รวมทั้งนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการทำงานภาครัฐเพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน
ทั้งนี้ได้มีการจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายในการศึกษาดูงานทั้ง 2 ครั้งจะมีค่าใช้จ่ายของกรรมการคนละประมาณ 3 แสนบาท แบ่งเป็น 1. ค่าใช้จ่ายในการศึกษาดูงาน “MWC Shanghai 2019” คนละประ มาณ 100,000 บาท โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ซึ่งกำหนดค่าใช้จ่ายรวมของแต่ละคณะวันละ 20,000 บาท และ 2. ค่าใช้จ่ายในการศึกษาดูงาน e-Government และ Cyber Security คนละ 200,000 บาท โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ซึ่งกำหนดค่าใช้จ่ายรวมของแต่ละคณะวันละ 50,000 บาท
อย่างไรก็ตามเมื่อพลิกดูในรายละเอียดค่าใช้จ่ายดูงาน นอกจากค่าเครื่องบินไปกลับ และค่าลงทะเบียนเข้าร่วมงานแล้ว จะมีค่าใช้จ่ายต่อคนที่สำคัญคือ ค่าอาหารมื้อละ 2,000 บาท 8 มื้อ รวม 16,000 บาท ค่ารับรองตามสิทธิ 3,000 บาท ค่าที่พักประเภท 1 ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาทต่อวัน รวม 30,000 บาท ค่าเครื่องแต่งกาย 9,000 บาท
ถึงตรงนี้อาจทำให้ใครหลายคนที่ไม่เคยทราบระเบียบรัฐวิสาหกิจหรือราชการ คงตกตะลึงและตั้งคำถามดังๆเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายบางรายการ โดยเฉพาะค่าเครื่องแต่งกายนั้นถูกบรรจุไว้ในระเบียบการเดินทางไปต่างประเทศของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจไว้อย่างชัดเจน และถือเป็นเรื่องปกติของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่เดินทางไปต่างประเทศ โดยระดับทั่วไปปฏิบัติงาน (ซี 1-4) และ ระดับวิชาการปฏิบัติการ (ซี 3-5) จะเบิกค่าเครื่องแต่งกายได้ 8,000 บาทต่อคน ระดับสูงกว่านั้นจะเบิกได้ 9,000 บาทต่อคน
ถ้าคำนวณค่าใช้จ่ายที่ทีโอทีต้องจ่ายให้กับกรรมการในการศึกษาดูงาน 2 ครั้ง คิดเป็นเงินที่ใช้รวมประมาณ 4 ล้านบาท ถือว่าเป็นเงินที่ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย สำหรับองค์กรที่กำลังอยู่ในการฟื้นฟูกิจการ อันเนื่องมาจากผลการดำเนินงานขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง และผลประกอบการเพิ่งมีกำไรในปี 2561 ประมาณ 2,170 ล้านบาท
ส่วนจะมีความคุ้มค่ากับเงินที่ใช้ไปหรือไม่ยังเป็นคำถามที่ต้องรอคำตอบ เพราะต้องไม่ลืมว่าหลังจากนี้อีกไม่นานทีโอทีและกสท จะต้องควบรวมกิจการเป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด
ถอดสูตรคุย โดย บรรทัดเหล็ก
หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,479 วันที่ 16-19 มิถุนายน 2562
