เทรดวอร์ทุบส่งออกอินโดฯ 2 คู่ค้าใหญ่ “จีน-สหรัฐฯ”นำเข้าลดลง

ไม่เพียงแต่ประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ทำให้ตัวเลขการส่งออกช่วง 4 เดือนแรกปี 2562 ติดลบ 1.9% เท่านั้น แต่เพื่อนบ้านย่านอาเซียนอย่างอินโดนีเซียก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รายงานว่า Darmin Nasution รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจได้ออกมาย้ำว่า สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการส่งออกของอินโดนีเซีย เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศนำเข้าจาก อินโดนีเซียลดลง โดยปัจจุบันทั้งจีนและสหรัฐฯเป็นพันธมิตรทางการค้าที่สำคัญของอินโดนีเซีย โดยจีนเป็นประเทศเป้าหมายการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย ขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่อันดับ 2  ซึ่งการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของ 2 ประเทศคู่ค้าหลัก ส่งผลให้การส่งออกของอินโดนีเซียลดลง

ทั้งนี้ เขาไม่กล้าที่จะคาดการณ์การส่งออกของอินโดนีเซีย แม้ว่าปีนี้เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจะยังคงอยู่ที่ 5.3% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของอินโดนีเซีย แต่ความรุนแรง จากผลกระทบที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับการนำเข้าด้วยเช่นกัน

ในปี 2561 มูลค่าการส่งออกของอินโดนีเซีย 180,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ในอัตรา 6.6% โดยภาคการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซียคือสินค้าโภคภัณฑ์มูลค่า 162,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในปี 2561 อินโดนีเซียขาดดุลการค้ามูลค่า 8,570 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม Darmin ยืนยันว่า เศรษฐกิจของอินโดนีเซียอยู่ในสภาพที่ดี

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติกลางของอินโดนีเซีย (BPS) ปี 2561 อินโดนีเซียนำเข้าสินค้ามูลค่า 188,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้น 20.15% จากปี 2560 ที่มีการนำเข้ามูลค่า 156,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับในปี 2561 เศรษฐกิจ(จีดีพี)ของอินโดนีเซียขยายตัว 5.1% โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมส่วนใหญ่อยู่ที่เกาะชวาสัดส่วน 58.48% รองลงมาได้แก่เกาะสุมาตรา 21.58% เกาะกะลิมันตัน 8.20% เกาะสุราเวสี 6.22% และเกาะอื่น ๆ 5.52%