ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) หลังมีรายงานออกมาว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,720.66 จุด เพิ่มขึ้น 181.09 จุด หรือ +0.71% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,843.49 จุด เพิ่มขึ้น 17.34 จุด หรือ +0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,615.55 จุด เพิ่มขึ้น 40.08 จุด หรือ +0.53%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้น หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกในอัตรา 5% ในวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน ตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ออกไปก่อน เนื่องจากสหรัฐเล็งเห็นว่า เม็กซิโกมีความพยายามอย่างจริงจังและดำเนินการอย่างรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เป็นข้อกังวลของประธานาธิบดีทรัมป์ และหากเม็กซิโกดำเนินการตามคำมั่นสัญญาที่จะสกัดกั้นการหลั่งไหลของผู้อพยพ การเก็บภาษีนำเข้าก็จะเป็นการดำเนินการเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ส่วนประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้น ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยในระหว่างการประชุมร่วมกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ว่า เขาจะตัดสินใจว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์หรือไม่ ภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น
หุ้นโบอิ้ง ปรับตัวขึ้น 0.5% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) เพิ่มขึ้น 0.3% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 0.24% ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้น 1.8% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวขึ้น 1.84% และหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.6%