IMF เตือน! สงครามการค้าทำจีดีพีโลกหดกว่า 14 ล้านล้านในปีหน้า  

06 มิ.ย. 2562 | 10:59 น.

กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกคำเตือนบริษัทของจีนที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในสหรัฐอเมริกาว่า อาจได้รับการปฏิบัติจากหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯในลักษณะที่จะทำให้ได้รับความอับอายซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติ  ขณะเดียวกัน (4 มิถุนายน 2562 ) กระทรวงการท่องเที่ยวของจีน ได้ออกคำเตือนต่อนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางไปยังสหรัฐฯเช่นกันว่า ให้ระวังภัยคุกคามไม่ว่าจะเป็นในรูปการจี้ปล้นสินทรัพย์หรือความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืน นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดจากหน่วยงานรัฐบาลจีนที่ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ ร้าวลึก ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ไม่เพียงไม่อาจบรรลุข้อตกลงทางการค้า แต่ยังขยายความขัดแย้งสู่การตั้งกฎเกณฑ์ข้อปฏิบัติของภาครัฐต่อบริษัทเอกชนของกันและกันในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ด้วย

โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีนอีกระลอกแล้ว

แนวโน้มไม่ดีนักสำหรับเอกชนของทั้งสองฝ่าย ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่มอุณหภูมิร้อนแรงให้กับการเผชิญหน้าด้วยการออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่า ถ้าหากจำเป็น เขาก็อาจจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีกในวงเงิน 300,000 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเป็นสินค้าประเภทใดบ้าง

 

สถานการณ์สงครามการค้าที่กำลังส่อแนวโน้มไปในทางลบ ทำให้ นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ต้องออกโรงเตือนว่า กำแพงภาษีที่ทั้งจีนและสหรัฐฯต่างตั้งขึ้นใส่กันจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยจะส่งผลลดทอนจีดีพีของโลกลงได้ถึง 455,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (กว่า 14.1 ล้านล้านบาท) หรือหายไป 0.5% ภายในปี 2020 หรือเปรียบเทียบง่ายๆคือ มูลค่าความสูญเสียดังกล่าวจะเทียบเท่าจีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ของแอฟริกาใต้ทั้งประเทศ 

คริสติน ลาการ์ด

ด้านเอกชนของทั้งสองฝ่าย ต่างก็กำลังได้รับผลกระทบจากบรรยากาศความเป็นปฏิปักษ์นี้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง หนึ่งในตัวอย่างของเอกชนที่ได้รับผลกระทบคือ บริษัท ทิฟฟานี่ แอนด์ โค. เจ้าของแบรนด์เครื่องประดับอัญมณีชื่อดังของสหรัฐฯ ที่ออกมาเปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุดน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง และส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวจีนที่เข้าร้านลดลงอย่างมาก สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ทิฟฟานี่ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรของทั้งปีนี้ลงมาโดยคาดว่ากำไรจะมีการขยายตัวในอัตราตัวเลขหลักเดียว และค่อนไปทางหลักเดียวในระดับกลางถึงระดับต่ำ เนื่องจากยอดขายจากนักท่องเที่ยวจีนลดฮวบลงมาก

 

นายอเล็สซานโดร บ็อกกลิโอโล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทิฟฟานี่ เปิดเผยว่า ยอดขายในสหรัฐฯของบริษัท เป็นยอดขายจากนักท่องเที่ยวในสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ตัวเลขสองหลัก และในระยะที่ผ่านมายอดขายจากกลุ่มนักท่องเที่ยวก็ลดลงมาแล้วถึง 25% และยอดขายจากนักท่องเที่ยวชาวจีนก็ลดลงในอัตราสูงกว่านั้นแต่บริษัทไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นอัตราเท่าใด  ผู้บริหารของทิฟฟานี่ยอมรับว่ากำลังได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายที่แผ่วลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้รับผลกระทบจากการที่เครื่องประดับอัญมณีที่สหรัฐฯส่งออกไปยังประเทศจีนถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงขึ้นแต่บริษัทตัดสินใจว่าจะพยายามไม่ขึ้นราคาจำหน่ายให้มากนักในช่วงเวลานี้