อิมแพ็ค โกรท รีท ประกาศรายได้รวม 2,445 ล้านบาท กำไรกว่า 1,317.60 ล้านบาท เผยกลุ่มงานอินเซนทีฟ คอนเสิร์ตไทย-เทศแน่น ดันรายได้รวมเติบโต 10% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปี 0.85 บาทต่อหน่วย
นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานีเปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจสิ้นสุดปีงบประมาณ 2561/62 (เมษายน 61- มีนาคม 62)ว่า อิมแพ็คยังคงได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้า งานประชุม สัมมนา ทั้งขนาดใหญ่ กลาง เล็ก รวมถึงงานเลี้ยงสังสรรค์ งานแต่งงานและกิจกรรมพิเศษ โดยเฉพาะอินเซนทีฟ หรือ กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และคอนเสิร์ตจากศิลปินไทย-ต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งบางคอนเสิร์ตมีการเพิ่มรอบด้วย รวมไปถึงดิสนีย์ ออน ไอซ์ ยังคงแสดงหลายรอบและหลายวันเช่นทุกปี
ขณะเดียวกันมีงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ การประกวดนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe 2018 งานแสดงสินค้าเพื่อแม่และเด็ก BBB Baby & Kids Best Buy 2019 งานไทยแลนด์ คอฟฟี่ เฟส 2019 และงานเดิมที่จัดอยู่ยังได้ขยายพื้นที่จัดงาน เช่น มหกรรมอาหาร ไทยเฟค เวิล์ด ออฟ ฟู้ด เอเชีย และในส่วนของประจำปี ซึ่งเป็นงานยอดนิยมของลูกค้าผู้ชมงาน เช่น โฮมโปร เอ็กซ์โป, มหกรรมลดทะลุพิกัด ของเดอะมอลล์กรุ๊ป, งานโอทอป ยังคงจัดงานต่อเนื่อง 3-4 ครั้งต่อปี โดยรวมแล้วทั้งปี อิมแพ็ค รองรับการจัดงานรวมกว่า 1,000 งาน ส่งผลให้รายได้เป็นไปตามเป้า
นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท(IMPACT GROWTH REIT)กล่าวว่า รายได้รวมของกองทรัสต์ฯอยู่ที่ 2,445 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน คิดเป็นกำไรสุทธิ 1,317.6 ล้านบาท เติบโต 9% โดยเป็นผลจากการใช้พื้นที่รวม 51% ของพื้นที่ที่เป็นสินทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้ทั้งหมด คณะกรรมการบริษัทฯ จึงอนุมัติจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 4 ประจำปี 2561/62 ในอัตราหน่วยละ 0.19 บาท โดยกำหนดจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์วันที่ 27 มิถุนายน 2562 ซึ่งเมื่อรวมยอดมการจ่ายปันผลทั้งปีอยู่ที่ 0.85 บาทต่อหน่วย ซึ่งสูงขึ้น 9% จากปีก่อนหน้า ซึ่งภาพรวมของอิมแพ็คที่ยังคงมีงานใหม่เพิ่มขึ้น และปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐ เอกชนผลักดันให้ธุรกิจไมซ์ประเทศไทยขยายตัว จะส่งผลทำให้กองทรัสต์ฯเติบโตต่อเนื่องด้วยเช่นกัน