ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด"

05 มิ.ย. 2562 | 02:45 น.

ขยับปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีไปสู่ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้ากันหมดแล้วละครับ ไม่เว้น “เฟอร์รารี่” แบรนด์รถยนต์ที่รํ่ารวยประวัติศาสตร์ มีอัตลักษณ์ชัดเจน ขายความหลงใหล ชื่นชมพอใจในสมรรถนะขั้นสูง

ผมได้รับเชิญให้ไปร่วมเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเฟอร์รารี่ ที่มาราเนลโล, จังหวัดโมเดน่า ประเทศอิตาลี กับการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยโปรดักต์แรกคือ SF90 Stradale ซูเปอร์คาร์ขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด

SF90 Stradale จะเข้ามาเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ของซูเปอร์คาร์ และถือเป็นครั้งแรกที่รถเครื่องยนต์วี 8 ถูกวางให้เป็นโปรดักต์รุ่นสูงสุดในไลน์อัพของเฟอร์รารี่

ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด" ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด" ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด"

สำหรับชื่อของ SF90 Stradale ได้แรงบันดาลใจมาจากวาระครบรอบ 90 ปีของทีมแข่ง Scuderia Ferrari ที่ปลุกปั้นโดย “เอ็นโซ่ เฟอร์รารี่” (ช่วงแรกทำให้กับ อัลฟ่าโรเมโอ) สมัยค.ศ.1929 นั่นละครับ

ค่ายม้าลำพองยืนยันว่า SF90 Stradale คือรถที่แรงและเร็วที่สุดที่เคยผลิตมา ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อินไฮบริด ใช้ขุมพลัง วี 8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบ ประสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ได้กำลังรวมกันถึง 1,000 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. แค่ 2.5 วินาที เร็วกว่า La Ferrari เครื่องยนต์ วี12 เสียอีก

มอเตอร์/เจเนอเรเตอร์ วางคั่นระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีดลูกใหม่ ส่วนแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ขนาด 7.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ตั้งชูชันอยู่หลังเบาะนั่ง(ก่อนถึงห้องเครื่องยนต์)

เครื่องยนต์ วี8 เทอร์โบ บล็อกพิมพ์นิยม (ได้รางวัล Best Engine จาก International Engine of the year 3 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2016-2018 หรือยังใช้ในรุ่นล่าสุดอย่าง F8 Tributo) ถูกปรับปรุงใหม่ในหลายๆจุด ทั้งการออกแบบฝาสูบ หัวฉีด ปรับทางเดินไอดี เพิ่มกำลังอัด และขยายกระบอกสูบจาก 3902 ซีซี เป็น 3990 ซีซี (เลยปัดเป็น 4.0 ลิตร ถ้าเครื่องเดิมจะใช้ 3.9 ลิตร )

 

สุดท้ายได้ประสิทธิผลระดับ 780 แรงม้าแรงบิด 800 นิวตัน-เมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที เป็นขุมพลัง วี 8 ที่ให้กำลังสูงสุดของเฟอร์รารี่

ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังรวมกัน 220 แรงม้า แบ่งหน้าที่กันชัดเจน โดยตัวที่ประกบกับเครื่องยนต์และเกียร์จะช่วยเสริมกำลังล้อหลัง พร้อมดึงพลังงานจลน์กลับมาเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ส่วนมอเตอร์อีก 2 ตัวด้านหน้า จะใช้ขับเคลื่อนล้อหน้า ทั้งช่วงออกตัว เร่งแซง การขับในโหมดไฮบริดปกติ จึงกลายเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อโดยปริยาย (E-4WD) แต่กรณีขับเร็วเกิน 210 กม./ชม. มอเตอร์คู่หน้าจะหยุดการทำงาน แล้วปล่อยให้ 2 ขุมพลังในล้อหลังทำงานเท่านั้น

 

ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด" ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด" ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด"

ทั้งนี้ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวด้านหน้า ยังช่วยให้ซูเปอร์คาร์ ปลั๊ก-อินไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนๆ ได้ระยะทาง 25 กม. (เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม) และวิ่งบนความเร็วสูงสุดในโหมดนี้ได้ถึง 135 กม./ชม.

ผมชื่นชมทีมงานของเฟอร์รารี่นะครับกับการพัฒนาระบบขับเคลื่อนใหม่ๆให้คงสมรรถนะยอดเยี่ยม พร้อมปล่อยไอเสียตํ่าลง แต่ยังต้องรักษาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ (คือเห็นแล้วรู้ว่าเป็นเฟอร์รารี่) ซึ่งทีมออกแบบ กับทีมวิศวกรรมโครงสร้าง-ระบบขับเคลื่อน คงต้องคุยกันยาว เพื่อให้รถโมเดลใหม่ออกมาลงตัวที่สุด

...จะเอาสวย คงต้องละทิ้งอะไรบางอย่าง หรือจะให้ขับดี ต้องเสียอะไรไปบ้าง

อย่างเลย์เอาต์สปอร์ตคาร์เครื่องยนต์วางกลาง พร้อมเทคโนโลยีปลั๊ก-อินไฮบริด แต่โดนบังคับทรงการออกแบบให้อยู่ในภาษาของแบรนด์ดังจากอิตาลี ผมว่าไม่ง่ายนะครับ

การวางชุดแพ็กแบตเตอรี่ ตั้งชันอยู่หลังคนขับผมว่าประดักประเดิดไปนิด (แนวคิดของ บีเอ็มดับเบิลยู ไอ8 ปลั๊ก-อินไฮบริด ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง)

ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด"

แต่เอาละครับ ผมเชื่อว่าหากเป็นเฟอร์รารี่ขุมพลังปลั๊ก-ไฮบริด ตัวถัง “จีที” หรือ “เอสยูวี” ในอนาคต (เฟอร์รารี่เขาไม่เรียกเอสยูวี) เมื่อเครื่องยนต์ประจำการอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าแล้ว ตำแหน่งของแบตเตอรี่อาจจะต่างไป หรือถูกวางบนพื้นห้องโดยสารใต้เบาะนั่งก็เป็นได้

สำหรับการทำตลาดในเมืองไทยโดย “คาวาลลิโน มอเตอร์” คาดว่าจะนำเข้ามาเปิดตัวปี 2563 และพร้อมส่งมอบในไตรมาส 3 ซึ่งดูจากตำแหน่งการตลาดที่สูงกว่ารุ่นที่ขายในปัจจุบันแล้ว SF90 Stradale ราคาต้องเกิน 33 ล้านบาทแน่นอน 

เรื่อง : กรกิต กสิคุณ

ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด" ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด"

ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด" ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด" ยุคใหม่ซูเปอร์คาร์"เฟอร์รารี่ ปลั๊ก-อินไฮบริด"

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,476 วันที่ 6 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2562