เจน3 ‘ลิปตพัลลภ’ งัดทักษะความเฉลียว สู่ศึกอสังหาฯ

นั่นต่างหากที่จะทำให้งานเดินไปได้อย่างดี และขณะนี้ “คุณหลวง - พสุ ลิปตพัลลภ” กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เจเนอเรชั่นที่ 3 ของตระกูล “ลิปตพัลลภ” ลูกชายคนโตของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ก็กำลังเรียนรู้ที่จะนำความเฉลียวที่มี มาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่แข่งกันดุเดือดอยู่ขณะนี้

PROUD เพิ่งมีการแถลงข่าวแสดงวิสัยทัศน์ และทิศทางธุรกิจไปเมื่อไม่นาน โดยได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงกลุ่มธุรกิจของครอบครัว ที่กระโดดเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงที่อยู่อาศัย หลังเข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัท โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัดชั่น จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) หรือ PROUD โดยมี “คุณพสุ” และน้องสาว คือ “คุณพราว - พราวพุธ ลิปตพัลลภ” ถือหุ้นอยู่ในบริษัทนี้รวม 70.3% ส่วนพราว เรียลเอสเตท ก็เปลี่ยนเป็น พราวกรุ๊ป ซึ่งจะทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและการบริการต่อไป

การที่ 2 พี่น้อง กระโดดลงมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เชิงที่อยู่อาศัย ทั้งๆ ที่ผู้ประกอบการรายอื่นเริ่มผันตัวเองไปสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income)ซึ่งธุรกิจของครอบครัวก็ทำอยู่แล้ว คือ ทำทั้งธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสวนนํ้า และค้าปลีกที่ร่วมกับเดอะมอลล์กรุ๊ป “คุณหลวง” บอกว่า ของเดิมก็ยังทำอยู่ในนามของพราวกรุ๊ป

ส่วนที่มาทำเรื่องที่อยู่อาศัยเพราะมองเห็นโอกาส โดยเฉพาะที่หัวหิน ซึ่งมีที่พักอาศัยสำหรับคนมองหาบ้านหลังที่ 2 ทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติยังมีความต้องการอยู่มาก และการที่บริษัทนำเอาความถนัดในการบริการระดับโรงแรม มาผสมผสานกับทำเลที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนมาเป็นจุดขาย ด้วยรูปแบบการลงทุนในคอนเซ็ปต์ “MORE THAN JUST LIVING” ถือเป็นการสร้างความแตกต่างในตลาด

จากประสบการณ์ ที่ทำงานด้านไฟแนนซ์มาก่อน และยังมีบริษัทฟินเทกของตัวเองชื่อ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด รวมทั้งได้เคยสัมผัสกับทั้งคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ในยุคที่สื่อโซเชียลยังไม่มี จนกระทั่งมันเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตคนมากมาย ทำให้ผู้บริหารหนุ่มคนนี้มองเห็นช่องทางความเป็นไปได้ของธุรกิจ

“คุณหลวง” ยอมรับว่า การเข้ามาบริหารงานในจุดนี้ มันเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจที่มีไซเคิลทั้งขึ้นและลง และขณะเดียวกันก็เป็นธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน เพราะเมื่อมองไปในเอเชีย หรืออาเซียนทุกประเทศจะมีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจนี้ยังเป็นสิ่งที่เข้าถึงทุกคน เพราะฉะนั้น ต่อให้มีไซเคิล ก็มีความจำเป็น จึงทำให้ธุรกิจนี้ไม่ตาย

“มันเป็นธุรกิจที่น่าเรียนรู้ เราทำการเงินมาก่อน คนที่จะทำธุรกิจประสบความสำเร็จได้ มันก็ต้องมีซัพพอร์ตเรื่องเงินทุน และในธุรกิจนี้ถือเป็นเซ็กเตอร์ที่ได้รับซัพพอร์ตด้านเงินทุนได้ง่ายที่สุด มันจับต้องได้ ไม่ต้องอธิบายเยอะ”

สำหรับหัวหิน ซึ่งเป็นทำเลที่ PROUD เลือกลงทุนก็เป็นทำเลที่มีโอกาส เพราะหัวหินเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการท่องเที่ยว จากยุทธศาสตร์การลงทุนภาครัฐ ภายใน 5 ปี มั่นใจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหัวหินเมื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเสร็จ รวมไปถึงการผลักดันโครงการท่องเที่ยวย่าน “ไทยแลนด์ ริเวียร่า” และการพัฒนาระบบคมนาคมครอบคลุมทั้งทางบก ทางนํ้า ทางอากาศ และทางราง อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน, โครงการมอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ และโครงการปรับปรุงและขยายสนามบินหัวหินซึ่งปัจจุบันเริ่มมีการบินระหว่างประเทศรายวัน

“คุณหลวง” บอกว่า เขาไม่ใช่คนฉลาด เรียนก็ไม่เก่ง แต่โชคดีที่เป็นคนมีความเฉลียว รับฟัง และพร้อมเรียนรู้ เขาศึกษาทั้งเศรษฐกิจมหภาค และภาพรวมในประเทศ...เราต้องศึกษา เพราะผมไม่ได้รู้ทุกอย่าง เราเข้าใจว่าแม็กโครมันเป็นแบบนี้ ก็ต้องมาดูว่าจะบริหารตัวเองอย่างไร แล้วเข้ามาดูว่า เซ็กเตอร์ที่เราทำอยู่มันเป็นอย่างไร เราพยายามเลือกทำเลที่มีโอกาส แล้วเติมด้วยจุดแข็งที่เรามีเหนือคนอื่น เช่น โลเกชัน เน็ตเวิร์ก และประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยว ก็ถือว่า เรามีศักยภาพที่สามารถสู้กับคนอื่นได้

จากความเชื่อมั่นว่า หากจะทำอะไร ต้องมองที่ตัวเองก่อนว่า มีความสามารถด้านไหน ถนัดด้านไหน แล้วนำจุดแข็งนั้นมาพัฒนาต่อ รวมทั้งการผสมผสานกับผู้เชี่ยวชาญในด้านอื่นๆ ที่ตัวเองไม่ถนัด ทำให้ผู้บริหารหนุ่มคนนี้มั่นใจว่า เขาจะสามารถนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมาย และสามารถสร้างรายได้สู่เป้า 10,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีได้แน่นอน 

หน้า 22-23 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,474 วันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน พ.ศ. 2562