เชือด 'อีวาย' สะเทือนไปทั้งบาง

28 พ.ค. 2562 | 12:49 น.

คอลัมม์มารยาตลาดหุ้น ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3474 หน้า 14 ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย.2562 โดย...คุณนายเผือก

 

เชือด ‘อีวาย’

สะเทือนไปทั้งบาง

 

                อึ้งกันเป็นแถว เมื่อ ก.ล.ต.สั่งลงโทษทางแพ่งกับอดีตผู้ช่วยผู้สอบบัญชี สังกัด บริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด จำนวน 3 ราย ฐานใช้ข้อมูลภายในบริษัทจดทะเบียนไปหาประโยชน์ในเรื่องหุ้นรวม 12 บริษัท เรื่องเกิดขึ้นระหว่างปี 2558-2560

                พฤติกรรมแห่งคดี นายวโรตม์ หน่อแก้ว และนางสาวจีรนันท์ บูรณรักษ์ อดีตผู้ช่วยผู้สอบบัญชี ระดับผู้จัดการ นำข้อมูลร่างงบการเงินของบริษัทที่เป็นลูกค้า ที่ผ่านการสอบบัญชีแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผย ไปใช้ซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งคู่ถูกสั่งให้ชำระค่าปรับ 7,660,441 บาท และ 4,645,951 บาท ตามลำดับ ส่วนนางสาวจีราภรณ์ บูรณรักษ์ (น้องนางสาวจีรนันท์) นำข้อมูลไปเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ถูกสั่งให้ชำระค่าปรับ 1,530,485 บาท

                นอกจากค่าปรับแล้ว ก.ล.ต.ยังขึ้นแบล็กลิสต์ต่อบุคคลทั้ง 3 ไม่ให้เป็นกรรมการบริษัทจดทะเบียน ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการตรวจสอบบัญชีของบริษัทจดทะเบียนในอัตราโทษสูงสุด 10 ปี และส่งให้คณะกรรมการจรรยาบรรณของสภาวิชาชีพบัญชีดำเนินการลงโทษต่อ

                ส่วนสำนักงานอีวาย ต้นสังกัดของผู้กระทำความผิดในขณะนั้น ก็ถูก ก.ล.ต.สั่งให้ปรับปรุงระบบตรวจสอบคุณ ภาพงานระบบบัญชีให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น (จะเรียกว่า วัวหายล้อมคอก ก็ไม่ผิดนัก)

                การใช้ข้อมูลภายในเพื่อการซื้อขายหุ้น ก็ไม่ต่างจากอาชญากรในตลาดหุ้น ยิ่งเป็นผู้สอบบัญชีที่รู้ข้อมูลก่อนใคร เป็นมากกว่าอาชญากร แถมเรื่องนี้กลับเกิดขึ้นกับบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลก ที่ย่อมได้รับการคาดหวังว่า มีคุณภาพและมีมาตรฐานวิชาชีพที่เหนือกว่า

                อีวาย หรือเดิมคือ เอิร์นแอนด์ยัง ได้ชื่อว่าเป็น Big 4 บริษัทบัญชีใหญ่ของโลก ร่วมกับไพร้ซวอเตอร์เฮ้าส์คูเปอรส์ (PWC) ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ และ เคพีเอ็มจี มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ มีพนักงานกว่า 152,000 คน สำนักงาน 670 แห่ง ใน 140 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

                ในประเทศไทย อีวาย มีลูกค้าระดับท็อปของบริษัทมหาชน 12 แห่ง ได้แก่ LH รับค่าจ้างปีละ 2.1 ล้านบาท MBK 2.38 ล้านบาท AMATA 2.1 ล้านบาท SPALI 2.55 ล้านบาท SIRI 2.2 ล้านบาท BEM 4.02 ล้านบาท BTS 5.5 ล้านบาท (บริษัทย่อยอีก 53 แห่งทั้งในและต่างประเทศ 29.17 ล้านบาท) BDMS 2.45 ล้านบาท BH 3.04 ล้านบาท TISCO 10.04 ล้านบาท DTAC 4.17 ล้านบาท และ TCAP 0.95 ล้านบาท

                ในปี 2560 อีวาย มีรายได้รวมทั่วโลกมากถึง 8.8 แสนล้านบาท แต่ไม่รู้มาตรฐานการดูแลพนักงานแบบไหน ถึงทำให้อดีตพนักงาน ต้องออกมาหาเศษหาเลยกับผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ แค่ไม่กี่สิบล้านบาท ซึ่งเทียบไม่ได้กับความเสียหายที่ตามมา

                จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะมีหลักประกันอะไรที่จะเชื่อได้ว่า ผู้สอบบัญชีของ “อีวาย” ที่ขึ้นทะเบียนกับก.ล.ต. 48 คน จะไม่มีพฤติกรรมเหมือนรุ่นพี่ รวมไปถึงสำนักงานตรวจสอบบัญชี อีก 28 แห่ง ที่อยู่ในลิสต์ จะมีพนักงานที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้หรือไม่

                 เหตุการณ์นี้ไม่ใช่กระทบแค่ 3 คนที่ถูกลงโทษ ผู้ถือหุ้นของ 12 บริษัทในอดีตที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และเสียหาย แต่กำลังจะกระเทือนถึง 12 บริษัทที่ “อีวาย” เป็นผู้ตรวจสอบในขณะนี้ และกระทบถึง “จรรยาบรรณของผู้ตรวจสอบบัญชีทั้งหมด” ด้วย

                ผู้ที่ใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น คงไม่ต่างจากอาชญากรในตลาดหุ้น มีบทลงโทษปรับและทางอาญา จะร้อยล้าน พันล้าน แต่ก็ไม่สามารถกำจัดออกไปได้หมด ยังคงมีให้เห็นเป็นระยะ ส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้บริหารของบริษัทซะมากกว่าที่จะเกิดกับผู้สอบ
บัญชี เหมือนกรณีเช่นนี้

                เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะปล่อยผ่านไปเฉยๆ จะหวังก.ล.ต.เพียงหน่วยงานเดียวทำให้ตลาดหุ้นขาวสะอาดคงไม่ได้ แต่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ในเรื่องนี้ สภาวิชาชีพบัญชี จะต้องลงไม้ลงมือ ร่วมปัดกวาดอาชญากรในตลาดหุ้นออกไปด้วย ก็ฝากท่านรองปลัดคลัง จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ในฐานะนายกสภาวิชาชีพบัญชี พิจารณาด้วย

                อย่าปล่อยให้ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้อง ดังที่ภาษิตโบราณว่าไว้