กลุ่มธุรกิจในเครือบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ อันได้แก่ กลุ่มไอซี, กลุ่มดิจิทัล และ กลุ่มยู-ทรานส์
หากแต่กลุ่มธุรกิจที่ถือว่าเป็น “เรือธง” คือ แซมเทล เมื่อพลิกดูผลประกอบการไตรมาสแรกปรากฏว่ามีรายได้รวม 2,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 150 ล้านบาท
และล่าสุดได้ติดตั้งระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง Common Use Passenger Processing Systems (CUPPS) ให้กับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และกรมท่าอากาศยาน
อย่างไรก็ตาม “ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับทิศทางของกลุ่มธุรกิจ ติดตามอ่านจากบรรทัดถัดจากนี้
4 เดือนที่ผ่านมาของแซมเทล
ถือว่าปีนี้เป็นปีทอง ของ แซมเทล ผ่านไปแล้ว 4 เดือนมีรายได้แล้ว 6,200-6,300 ล้านบาท เป็นรายได้ที่มาจากการ ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ส่วนระบบ CUPPS ติดตั้งที่สนามบินกระบี่มูลค่าโครงการ 104 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี โดยมีบริษัท ซีต้า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จำกัด ร่วมกันบริหารจัดการ
วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์
ซีต้า มาอย่างไร
ซิต้า ได้โครงการส่วนใหญ่ในสนามบินทั่วโลก 70-80% และสนามบินทั่วโลกส่วนใหญ่ใช้ระบบ CUPPS
นอกจากนี้ แซมเทล ยังได้ติดตั้งระบบ CUPPS ที่สนามบิน อื่นๆ ภายใต้ บริษัท ท่าอากาศ ยานไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 800 เคาน์เตอร์ โดยที่สนามบินดอนเมือง ใช้แล้ว 5 แสนราย, เชียงใหม่ 50%, ภูเก็ต 65% รวมไปถึงเชียงราย และหาดใหญ่
เหตุผลที่รุกสนามบิน
แนวโน้มการเติบโตของการเดินทางเพิ่มขึ้น สังเกตได้ว่าเมื่อสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการรองรับ 40 ล้านคน 2 ปีผ่านไปเพิ่มเป็น 60 ล้านคน ปัจจุบันอยู่ที่ 70 ล้านคนต่อปี ยิ่งไปกว่านั้น การเติบโตของกลุ่มสามารถเทลคอม ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน จากนโยบายของรัฐในการพัฒนาประเทศรองรับยุคดิจิทัล ผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ ด้านการท่องเที่ยวส่งเสริมให้มีการพัฒนา และยกระดับมาตรฐานท่าอากาศยานของไทยให้สามารถรองรับการเติบโตได้ เป็นต้น
เป้าหมาย
ค่อนข้างชัดเจนอินดัสตรีกำลังอยู่ในการเปลี่ยนแปลง โดยสนามบินหันมาใช้ IT เป็นหลัก อันที่ 2ทรานส์ฟอร์มเรื่องแบงก์ ระบบแบงก์ไม่รองรับกับการใช้งานอี-คอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้น อยู่ในยุคที่ธนาคารกำลังยกเครื่องไปสู่ดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ แซมเทล ยังได้โครงการของธนาคารอาคารสงเคราะห์ 1,900 ล้านบาท เมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้โครงการจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย จำนวน 500-600 ล้านบาท โครงการของกรมที่ดิน พัฒนาไปสู่ระบบดิจิทัล เป็นต้น
ฝากการบ้านให้รัฐบาลใหม่
เร่งพัฒนาระบบไอทีตลาดบิ๊กดาต้าให้มีมากขึ้น AI จะมีแล้ว คาดว่าคงมีแต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด
สัดส่วนรายได้
จากเดิมธุรกิจด้านระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่ายสื่อสารข้อมูลมีรายได้เป็นอันดับ 1 แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสายธุรกิจให้บริการวางระบบโซลูชันด้านเทคโนโลยีประยุกต์ด้าน ICT (Enhanced Technology Solutions) เพิ่มขึ้น 30-40%ส่วนอันดับ 3 คือ สายธุรกิจแอพพลิเคชันสนับสนุนด้านการประกอบธุรกิจ ส่วนเป้ารายได้อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ปีที่แล้ว 7 พันล้านบาท
สัมภาษณ์โดย ทีมข่าวไอที
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3474 วันที่ 30 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2562