‘แอตต้า’ฟันธงเที่ยวไทย จีนไม่โตก้าวกระโดด-‘อินเดีย’มาแรง

       ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะเห็นว่านักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยอย่างก้าวกระโดด แต่จากนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เพราะเหตุใด อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า)

แจง 3 ปัจจัยทำจีนโต5-7%

       นายกแอตต้า คาดการณ์ว่า ตลาดหลักด้านการท่องเที่ยวของไทย จะยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจีนอยู่ แต่จากนี้ไปจีนจะไม่ได้มาเที่ยวไทยในแบบก้าวกระโดดอย่างในอดีต ที่เติบโตปีละ 10% แต่จะเติบโตอยู่ในระดับ 5-7% โดยประมาณ ที่เป็นเช่นนี้มาจาก 3 ปัจจัย

     ปัจจัยที่ 1 คือ ศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่มีจำกัด โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว อย่างสนามบินหลักของไทย ที่ปัจจุบันสล็อตการบินในช่วงเวลาที่เหมาะสมเต็มหมดแล้ว เหลือเวลาให้เที่ยวบินมาลงได้เฉพาะในช่วงตี 2 ไปแล้วเท่า นั้น ทำให้การเปิดบินเข้ามาจึงไม่มากนัก

    ปัจจัยที่ 2 เป็นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวอยู่แล้วเดิม ประกอบกับเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ อเมริกาและจีน ซึ่งยังคงต้องติดตามว่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยในระยะยาวหรือไม่ แต่ในระยะสั้น คิดว่ายังไม่กระทบ เพราะคนจีนไม่ไปเที่ยวสหรัฐอเมริกา แต่เลือกมาเที่ยวเอเชีย ไทยก็จะได้อานิสงส์ เพราะยังเป็นประเทศที่คนจีนอยากมาเที่ยว แต่คงไม่ได้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด

     เนื่องจากปัจจุบันจีนมีการเปิดประเทศให้มีการเดินทางไปเที่ยวได้มากขึ้น โดยขณะนี้มีกว่า 100 ประเทศแล้ว และประเทศคู่แข่งของไทย ต่างก็พยายามกระตุ้นนักท่องเที่ยว ซึ่งจะเห็นหลายประเทศมีการโปรโมตเชิงรุก รวมถึงมาตรการฟรีค่าธรรม เนียมวีซ่ามากมาย

      ปัจจัยที่ 3 เป็นเรื่องของอัตราการแลกเปลี่ยน ซึ่งปัจจุบันแลกเป็นเงินบาทได้ลดลงราว 15% จากปีที่แล้ว 1 หยวนแลกได้ 5.3-5.4 บาท แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 4.5-4.6 บาท

คาดปีนี้จีนเที่ยวไทย11.5ล. คน

     ดังนั้นปีนี้แอตต้า จึงดาดว่าตลอดทั้งปีนี้น่าจะมีคนจีนเดินทางมาเที่ยวไทยอยู่ที่ 11.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 10.5 ล้านคน ซึ่งก็จัดว่าเป็นการเติบโตแบบปกติ ไม่ก้าวกระโดด เพราะที่ผ่านมาฐานจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยสูงมาก

       การขยายตัวจากนี้จะให้มากเหมือนในอดีตคงไม่ได้ เห็นได้จากสถิตินักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยในช่วงไตรมาสของปีนี้ ที่ติดลบอยู่ 1.72% เฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวจีน อยู่ที่ 3 หมื่นคนต่อวันลดลง หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวจีนเฉลี่ยอยู่ที่ 5 หมื่นคน

     ทั้งนี้แอตต้าก็เห็นด้วยกับกลยุทธ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เน้นการ กระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนและเจาะกลุ่มที่มีศักยภาพสูงเข้ามาเที่ยวไทย

วิชิต ประกอบโกศล

จัดโรดโชว์ 3 มณฑล

        ในส่วนของแอตต้าเอง ในวันที่ 26-31 พฤษภาคม 2562 เราก็ได้นำสมาชิกที่มีทั้งเอเยนต์ทัวร์ โรงแรม แหล่งท่องเที่ยวที่รองรับตลาดจีนรวมกว่า 70 ราย เดินทางไปทำโรดโชว์ ใน 3 เมือง 3 มณฑลในจีน ได้แก่ เมืองเซียะเมิน มณฑลฮกเกี้ยน, เมืองหนานฉาง มณฑลเจียงซี และฉางซา มณฑลหูหนาน เพื่อพบปะและเจรจาธุรกิจกับเอเยนต์จีนราว 100 รายต่อมณฑล เพื่อกระตุ้นตลาดจีนในมณฑลเหล่านี้ให้เข้ามาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้น

       แอตต้าเลือกเดินทางไปทำโรดโชว์ใน 3 มณฑล ดังกล่าว แม้จะเป็นเมืองรองของจีน แต่มีประชากรรวมกันมากถึง 150 ล้านคน มีจีดีพีที่เติบโตอยู่ในระดับ B+ ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อ ประกอบกับมีเที่ยวบินเข้าไทย ราว 15 เที่ยวบินต่อวัน มีนักท่องเที่ยวจากมณฑลเหล่านี้เข้าไทยกว่า 8 แสนคนต่อปี ทำให้แอตต้าเน้นทำตลาดเชิงรุกใน 3 มณฑลนี้ โดยไทยจะนำเสนอโปรดักต์ที่ครอบคลุมตลาดทุกระดับ

       ทั้งยังมองว่าเป็นการช่วยเหลือสมาชิกในการผลักดันการขายผ่านกรุ๊ปทัวร์ได้มากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการเดินทางมาเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวจีน นับว่าจะมีการขยายตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวด้วยตัวเอง (เอฟไอที) เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% และเป็นกรุ๊ปทัวร์กว่า 60% ใปในปีนี้น่าจะขยับมาเป็น 50:50 และต่อไปตลาดเอฟไอที จะเติบโตสูงกว่าการเดินทางผ่านบริษัททัวร์อย่างแน่นอน

ตลาดอินเดียมาแรง

       ส่วนตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด คือ อินเดีย เนื่องจากเศรษฐกิจดี และตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม ฟิลิปปินส์ รวมถึงตลาดเอเชีย อย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ขณะที่ตลาดยุโรปในปีนี้จะทรงตัว จากภาวะเศรษฐกิจในยุโรป แต่ก็มีตลาดในแทบ ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก ที่ยังสามารถผลักดันการเติบโตได้อีก เพราะฐานตลาดนี้ยังเดินทางมาเที่ยวไทยไม่สูงนัก ประกอบกับมีเที่ยวบินเข้าไทย ซึ่งทาง ททท.ก็อยู่ระหว่างเจาะตลาดนี้อยู่ ซึ่งเอกชนก็เห็นด้วย

สัมภาษณ์ โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3474 วันที่ 30 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2562