มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น คาดการณ์ยอดจำหน่ายทั่วโลกในปีงบประมาณ 2562 ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2561 ด้วยยอดหน่ายรวมที่ 1,305,000 คัน และมีรายได้จากการขายรวมเติบโตเพิ่มขึ้น 3 % ด้วยมูลค่ายอดจำหน่ายรวมที่ 2.58 ล้านล้านเยน หรือ ประมาณ744,000 ล้านบาท ขณะที่ผลกำไรคาดว่าจะทำได้ 90,000 ล้านเยน หรือ ประมาณ26,000 ล้านบาท และเป้าหมายผลกำไรสุทธิที่ 65,000 ล้านเยน หรือ ประมาณ19,000 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์ที่จะนำพาให้มิตซูบิชิ เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบไปด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขายจากการเพิ่มมูลค่าแบรนด์ และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เครือข่ายการจำหน่าย ควบคู่กับการขยายการขายมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมไปถึงการเพิ่มยอดจำหน่ายมิตซูบิชิเอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และมิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอสส์
ขณะที่ปีงบประมาณ 2561 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มียอดจำหน่ายสุทธิเติบโตขึ้น 14.7 % เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน โดยมีรายได้จากการขายรวม 2.5146 ล้านล้านเยน หรือ ประมาณ 725,000 ล้านบาท และมีผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 111,800 ล้านเยน หรือ ประมาณ 32,000 ล้านบาท จาก 98,200 ล้านเยน หรือ ประมาณ 28,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2561 คิดเป็นอัตราผลกำไร 4.4 %
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มียอดจำหน่ายที่เติบโตเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคเมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณก่อน ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นตลาดหลัก ,ภูมิภาคโอเชียเนีย รวมถึงตลาดที่มีความสำคัญอย่าง อเมริกาเหนือ ประเทศจีน และภูมิภาคอื่นๆมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จึงสามารถสร้างยอดจำหน่ายได้เป็นไปตามการคาดการณ์ยอดจำหน่ายรวมที่ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปีงบประมาณ 2561
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มียอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนหน้าถึง 17 % เป็นจำนวนรวม 318,000 คัน จากการจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้ทำเปิดตัวและจำหน่ายเป็นที่แรก รวมถึงประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศไทย และประเทศเวียดนาม
ในประเทศญี่ปุ่นยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอสส์ ,มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และ
มิตซูบิชิ เดลิกา ดีไฟฟ์ ต่างมีส่วนสนับสนุนให้ยอดจำหน่ายเติบโตขึ้น 7 % เป็นจำนวนรวม 105,000 คัน