อาลีบาบา กรุ๊ป ปลื้มรายได้โต 51% ยอดผู้ใช้เฉพาะจีนพุ่ง 654 ล้านคน
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ยักษ์ใหญ่ด้านอี-คอมเมิร์ซ ค้าปลีก และฟินเทค จากเมืองหังโจว ประเทศจีน ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสและงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 ระบุว่า อาลีบาบากำลังกลายเป็นสิ่งที่มีความหมายโดยตรงกับการบริโภคในชีวิตประจำวันของประเทศจีนมากยิ่งขึ้นในทุกวันนี้ ฐานลูกค้าของบริษัทเติบโตสู่ระดับ 654 ล้านคนต่อปี และยังได้ขยายตลาดไปยังเมืองในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ
นาย แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป เปิดเผยว่า ธุรกิจเทคโนโลยีคลาวด์ ฐานข้อมูล และการค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ยิ่งใหญ่ของอาลีบาบา ทำให้บริษัทสามารถเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจในประเทศจีนและในอีกหลายประเทศเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตในระยะยาวของบริษัท
“เราได้รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่แข็งแกร่งและงบการเงินประจำปีที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนำโดยการเติบโตของรายได้ในงบการเงินประจำปีที่อัตรา 51% รวมถึงการเติบโตและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานที่แข็งแรงในระบบนิเวศของเรา หากไม่นับรวมผลกระทบจากการควบรวมและเข้าซื้อกิจการ รายได้รวมจะเติบโต 39% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า” แมกกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว และว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กำไรและกระแสเงินสดของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก และยังสามารถลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ และสร้างคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับลูกค้า “การลงทุนเหล่านี้ได้ขยายตลาดที่เรามีอยู่และวางตำแหน่งของเราให้ดีพร้อมสำหรับการเติบโตในระยะยาว เมื่อมองไปถึงงบการเงินประจำปี 2563 เราคาดหวังว่าจะมีรายได้มากกว่า 500,000 ล้านหยวน ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมั่นใจและแรงผลักเชิงบวกของเราในวันข้างหน้า” ผู้บริหารของอาลีบาบากล่าว
ข้อมูลที่น่าสนใจจากผลประกอบการไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 มีดังต่อไปนี้
รายได้รวม 93,498 ล้านหยวน (13,932 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า
ยอดผู้บริโภคในประเทศจีนที่เข้าถึงช่องทางค้าปลีกของบริษัท สูงถึง 654 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18 ล้านคนเมื่อเทียบกับ 12 เดือนก่อนหน้านี้ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561
ยอดผู้ใช้งานในประเทศจีนที่เข้าถึงช่องทางค้าปลีกของอาลีบาบาในแต่ละเดือนผ่านโทรศัพท์มือถือสูงถึง 721 ล้านคนในเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งสูงกว่าในเดือนธันวาคมของปี 2561 ถึง 22 ล้านคน
กำไรจากการดำเนินการ 8,765 ล้านหยวน (1,306 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการชำระเงินในคดีฟ้องร้องในระดับสหพันธรัฐของสหรัฐอเมริกาจำนวน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และรายการตัดจ่ายทางบัญชีอื่นๆ ที่ปรับปรุง (Adjusted EBITDA) เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 25,166 ล้านหยวน (3,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีและรายการตัดจ่ายทางบัญชีอื่นๆที่ปรับปรุงแล้วของธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่ง คิดเป็น 27,484 ล้านหยวน (4,095 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา กำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และรายการตัดจ่ายทางบัญชีอื่นๆ ที่ปรับปรุงในธุรกิจ Marketplace-based ของเรา (อ่านคำนิยามได้ในท้ายผลประกอบการ) ที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (non-GAAP measurement) เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 34,688 ล้านหยวน (5,169 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
กำไรสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญ คือ 25,830 ล้านหยวน ( 3,849ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) กำไรสุทธิ เท่ากับ 23,379 ล้านหยวน (3,484 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) กำไรสุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป เท่ากับ 20,056 ล้านหยวน (2,988 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 42% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรต่อหุ้นปรับลดเท่ากับ 9.84 หยวน (1.47 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และกำไรที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไปต่อหุ้นปรับลดเท่ากับ 8.57 หยวน (1.28 ดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 18,553 ล้านหยวน (2,764 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ขณะที่กระแสเงินสดสุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป อยู่ที่ 10,714 ล้านหยวน (1,596 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
ข้อมูลที่น่าสนใจจากงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 มีดังต่อไปนี้
รายได้รวม 376,844 ล้านหยวน (56,152 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หากไม่รวมผลกระทบของการควบรวมธุรกิจและเข้าซื้อกิจการ รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ยอดผู้บริโภคในประเทศจีนที่เข้าถึงช่องทางค้าปลีกของอาลีบาบา สูงถึง 654 ล้านคน เพิ่มขึ้น 102 ล้านคนเมื่อเทียบกับ 12 เดือนก่อนหน้านี้ที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561
ยอดผู้ใช้งานในประเทศจีนที่เข้าถึงช่องทางค้าปลีกของบริษัทในแต่ละเดือนผ่านโทรศัพท์มือถือสูงถึง 721 ล้านคนในเดือนมีนาคม 2562
ยอดขายสินค้ารวมของตลาดค้าปลีกในประเทศจีนอยู่ที่ 5,727,000 ล้านหยวน (853,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในปีงบการเงินประจำปี 2562 คิดเป็นอัตราเติบโต 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หากไม่รวมคำสั่งซื้อที่ยังไม่ได้ชำระค่าสินค้า ยอดขายสินค้าที่จับต้องได้ของตลาดค้าปลีกในประเทศจีนเติบโตขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนยอดขายสินค้าที่จับต้องได้ผ่านทาง Tmall เพิ่มสูงขึ้น 31% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วน ยอดขายสินค้าที่จับต้องได้ผ่านทาง Taobao เพิ่มสูงขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรจากการดำเนินการ 57,084 ล้านหยวน (8,506 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และรายการตัดจ่ายทางบัญชีอื่นๆ ที่ปรับปรุง (Adjusted EBITDA) เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 121,943 ล้านหยวน (18,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และรายการตัดจ่ายทางบัญชีอื่นๆ ที่ปรับปรุงแล้วของธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่ง คิดเป็น 136,167 ล้านหยวน (20,290 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา กำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และรายการตัดจ่ายทางบัญชีอื่นๆ ที่ปรับปรุงในธุรกิจ Marketplace-based ที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (non-GAAP measurement) เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 161,589 ล้านหยวน (24,078 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
กำไรสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญ คือ 87,600 ล้านหยวน (13,053 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) กำไรสุทธิ เท่ากับ 80,234 ล้านหยวน (11,955 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) กำไรสุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป เท่ากับ 93,407 ล้านหยวน (13,918 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรต่อหุ้นปรับลดเท่ากับ 33.38 หยวน (4.97 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และกำไรที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไปต่อหุ้นปรับลดเท่ากับ 38.40 หยวน (5.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 150,975 ล้านหยวน (22,496 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ขณะที่กระแสเงินสดสุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป อยู่ที่ 104,478 ล้านหยวน (15,568 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
