มาร์เก็ตแคป หุ้น‘เจ้าสัวเจริญ’ 3.1แสนล้าน 4เดือนโต 1.8หมื่นล้าน

เปิดพอร์ตหุ้นกลุ่มตระกูล “สิริวัฒนภักดี” “ค้าปลีก-อสังหาฯ-ประกัน” เด้งนำดัชนีตลาดฯ  มาร์เก็ตแคปรวม 3.06 แสนล้านบาท 4 เดือน  เพิ่ม 1.77 หมื่นล้านบาท จับตากลยุทธ์ไล่ฮุบกิจการ ผ่านซื้อหุ้นเพิ่มทุน จัดสรรเฉพาะเจาะจง (PP)

นิตยสารฟอร์บส์ ไทยแลนด์ จัดอันดับมหาเศรษฐีประเทศไทยประจำปี 2562 ตระกูล “สิริวัฒนภักดี” ติดอันดับ 4  มีทรัพย์สินรวม 5.17 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7 หมื่นล้านบาทหรือราว 17% จากปี 2558 ที่มีทรัพย์สินรวม  4.3 แสนล้านบาท

การเติบโตทางธุรกิจกลุ่มเจ้าสัวเจริญสิริวัฒนภักดี ยังคงสไตล์ไล่ฮุบกิจการ และเข้าไปมีบทบาทในตลาดหุ้นไทย โดยการ “แบ็กดอร์ ลิสติ้ง” หรือการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯทางอ้อม และการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรให้เฉพาะเจาะจง (พีพี) ไม่ว่าจะเป็นดีลของบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)(บมจ.) (BJC), บมจ.โออิชิ (OISHI), บมจ.เสริมสุข (SSC) บริษัทประกันภัยอาคเนย์ฯ รวมถึงการให้บริษัทในเครือ คือ “บจก.อาคเนย์ แมนเนจเม้นท์” ทำคำเสนอซื้อหุ้นบมจ.ไทยประกันภัย (TIC) สัดส่วน 67.93% วงเงินลงทุน 547 ล้านบาท เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว   

ส่วนการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยซื้อจากหุ้นเพิ่มทุนที่ขายให้บุคคลในวงจำกัด ที่เห็นในช่วง 2-3 ปีหลังเช่น กรณีของบมจ. อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง (AMARIN) ที่บริษัทวัฒนภักดีฯ  เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนสัดส่วน  47.62% มูลค่าลงทุน 850 ล้านบาท, ดีลของบจก. จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง (GMM 25)  (บริษัทเครือ GRAMMY) ที่ีเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน 1,000 ล้านบาท  ถือ 50%  หรือกรณีบมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) บริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญคือ บริษัท เฟรเซอร์ส แอสเซ็ทส์ จำกัด (FAS) ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 48.52% บวกกับเดิมที่ถือผ่าน FPHT 40.96% จนถือหุ้นใหญ่บริหารเบ็ดเสร็จ ก่อนเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประ เทศไทย) (FPT) เมื่อปลายปีที่แล้ว

ล่าสุด FPT แจ้งตลาดหลัก ทรัพย์ฯ จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ บมจ.แผ่นดิน ทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) โดยสมัครใจ 2,323.72 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 8.50 บาท  มูลค่ารวม 19,751.62 ล้านบาท ปัจจุบันโครงสร้างผู้ถือหุ้น GOLD ถือโดยบจก.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) (FPHT) 39.92% และบมจ.ยูนิเวนเจอร์ หรือ UV 39.28% พร้อมตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)ฯ เป็นที่ปรึกษา

เจริญ  สิริวัฒนภักดี

ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ การถือหุ้นของกลุ่มตระกูลสิริวัฒนภักดีทั้งที่ถือทางตรงและทางอ้อมโดยผ่านบริษัทในเครือ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่าบมจ.ที่กลุ่มนี้ถือหุ้นตั้งแต่สัดส่วน  60% ขึ้นไปมี 10 บริษัท ได้แก่  1. บมจ. โออิชิ กรุ๊ป (OISHI),  2. บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์  (BJC), 3. บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV), 4. บมจ.เสริมสุข (SSC), 5. บมจ. แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์  (GOLD) 6. บมจ.อาหารสยาม (SFP), 7.บมจ.อินทรประกันภัย  (INSURE), 8. บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง (AMARIN) 9. บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FPT) และ 10. บมจ.ไทยประกันภัย (TIC) (ตารางประกอบ)

ทั้ง 10 บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) รวม  ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2562 อยู่ที่  305,858  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17,720 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.15% จากสิ้นปี 2561 ที่มีมาร์เก็ตแคปรวม 288,138 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย ช่วงเดียวกัน  เปลี่ยนแปลงเพิ่ม  5.4% มีมูลค่ามาร์เก็ต แคป 16.87 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น  4.13%  จากสิ้นปี 2561 ที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคป 16.20 ล้านล้านบาท

การเคลื่อนไหวของหุ้นทั้ง 10 ตัวดังกล่าว โดยรวมปรับเพิ่มมากกว่าดัชนีตลาดหุ้น  เช่นในกลุ่มคอนซูเมอร์   OISHI  ราคาปิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม2562 พุ่งขึ้น 33.77% จากสิ้นปี 2561,   BJC ราคาปิดปรับเพิ่ม 3%   กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และนิคมอุตสาห กรรม FPT ปิดที่ 16.70 บาท เพิ่ม 22%, GOLD ปิดที่  8.40 บาท พุ่ง 20% โดยเฉพาะ GOLD ราคาได้ปรับขึ้น ช่วงตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลัง FPT ในเครือบริษัทของเจ้าสัวเจริญ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ  GOLD และอาจเพิกถอนหุ้น GOLD ออกจากตลาด หลักทรัพย์ฯ เช่นเดียวหุ้น BIGC ที่เพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯไปก่อนหน้า หลังจากใช้วงเงินร่วม 2 แสนล้านบาท เข้าซื้อหุ้น BIGC จากกลุ่มคาสิโนและตั้งโต๊ะรับซื้อที่เหลือจนถือในสัดส่วนรวม 98%

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3470 วันที่ 16-18 พฤษภาคม 2562