ดัชนีเชื่อมั่น Startup ลด เหตุสงครามการค้ากดคำสั่งซื้อชะลอ 

12 พ.ค. 2562 | 09:04 น.

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจฐานราก ออมสิน เผยดัชนีเชื่อมั่น ผู้ประกอบการ Startup ไตรมาส 1 อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน เหตุคำสั่งซื้อประเทศคู่ค้าชะลอ จากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

                  
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Startup (SSI) ประจำไตรมาส 1 ปี 2562 จากผู้ประกอบการกลุ่มตัวอย่าง 500 รายพบว่า ดัชนี SSI อยู่ที่ระดับ 58.80 สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการ Startup ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวม  แต่ลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัยทั้ง  การชะลอคำสั่งซื้อของประเทศคู่ค้าสำคัญข องไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ


 นอกจากนั้น ผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น จากคู่แข่งในตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากในและนอกประเทศ ส่งผลกระทบให้ยอดขายและคำสั่งซื้อมีการชะลอตัวลง  และยังมีปัญหาภัยแล้งในบางพื้นที่ทำให้ผลผลิตบางชนิดออกมาได้น้อยโดยเฉพาะผลผลิตข้าวนาปรังและอ้อย ส่งผลกระทบให้รายได้ของเกษตรกร กลุ่มนี้ชะลอตัวลง 


สำหรับ ดัชนี SSI ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการ Startup มีมุมมองต่อภาวะธุรกิจ Startup ในภาพรวมดีขึ้น อยู่ที่ระดับ 67.52 โดยคาดหวังว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วงด้วยดี จะส่งผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศปรับตัวดีขึ้น แต่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งหากการเจรจาการค้าไม่ประสบผลสำเร็จจะส่งผลกระทบต่อยอดขายและคำสั่งซื้อของสินค้าหลายประเภท แต่ในทางกลับกันสินค้าไทยบางประเภทอาจได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ เพื่อทดแทนการซื้อจากจีน รวมถึงยังอาจได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตของจีนและสหรัฐฯ เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโดยรวมยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดไตรมาสที่ 1 ซึ่งส่งผลให้ค่าเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 


ทั้งนี้เมื่อพิจารณาในแต่ละภาคธุรกิจคือ อุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร การค้าและบริการ ดัชนีฯอยู่ที่ระดับ 53.08-61.16 แสดงถึงผู้ประกอบการ Startup ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวม โดยดัชนี SSI ในภาคการเกษตรอยู่ที่ระดับ 61.16 สูงที่สุดในทุกภาคธุรกิจ เนื่องจากเข้าสู่ต้นฤดูกาลของผลไม้ที่ได้รับความนิยมจาก  ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เช่น มะม่วง ทุเรียน และมังคุด ซึ่งในไตรมาสแรกนี้ผลไม้ดังกล่าวได้ผลผลิตดี ส่งผลให้รายได้ภาคเกษตรในกลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการภาคเกษตรบางส่วนมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเพาะปลูกและการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถบริหารจัดการผลผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้คุณภาพและมีมาตรฐานเพิ่มขึ้น

     
 “ศูนย์วิจัยฯ มองว่า ยังมีประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังติดตาม คือ ปัจจัยทางด้านต้นทุนของผู้ประกอบการ Startup ที่ยังอยู่ในระดับสูง ทั้งค่าจ้างแรงงานผู้มีทักษะเฉพาะทาง ค่าเชื้อเพลิงและวัสดุอุปกรณ์ นอกจากนี้ผู้ประกอบการ Startup ยังคงต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนในด้านเงินทุนโดยมีเงื่อนไขการกู้ยืมที่ยืดหยุ่นโดยให้พิจารณาคำสั่งซื้อหรือผลิตภัณฑ์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ และมีการผ่อนปรนการชำระหนี้เมื่อประสบปัญหา รวมถึงการร่วมลงทุนเพื่อขยายธุรกิจและลงทุนเพิ่มเติมในด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ อีกทั้งสนับสนุนด้านการหาตลาดและเพิ่มความรู้ด้านการลงทุน การส่งออก การขยายธุรกิจ ภาษี ตลอดจนด้านเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ด