อุปทานนํ้ามันโลกตึงตัว-ราคาจ่อพุ่งหลังมะกันเพิ่มระดับแซงก์ชันอิหร่าน

10 พ.ค. 2562 | 00:30 น.

กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา (2 พ.ค. 62) เมื่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศยกเลิกข้อยกเว้นชั่วคราวที่อนุญาตให้ 8 ประเทศสามารถนำเข้านํ้ามันจากประเทศอิหร่านได้ในปริมาณจำกัด โดยเป้าหมายของการออกข้อยกเว้นชั่วคราวก็เพื่อป้องกันไม่ให้อุปทานนํ้ามันโลกลดลงอย่างปุบปับฉับพลันซึ่งจะส่งผลให้ราคานํ้ามันถีบตัวสูง แต่เมื่อระยะยกเว้นสิ้นสุดลง หลายฝ่ายก็พากันจับตาว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกนํ้ามันอย่างโอเปกนำโดยซาอุดีอาระเบีย จะออกมาช่วยแก้ปัญหาในแง่อุปทานนํ้ามันอย่างไร และอิหร่านจะมีวิธีการใดในการนำนํ้ามันดิบออกสู่ตลาด

มาตรการควํ่าบาตรนํ้ามันอิหร่านของสหรัฐฯนั้น เป้าหมายก็เพื่อกดดันประเทศคู่อริอย่างอิหร่านไม่ให้สามารถส่งออก นํ้ามันที่เป็นแหล่งสร้างรายได้หลักๆเข้าประเทศ แต่ขณะเดียวกันมาตรการดังกล่าวก็ได้ผลักดันตลาดนํ้ามันโลกเข้าสู่สภาวะไร้ทิศทางและมีแต่ความไม่แน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้ นักลงทุนและบรรดานักวิเคราะห์ต่างคาดหวังว่า สหรัฐฯจะพิจารณาทบทวนและขยายระยะเวลาของการยกเว้นทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้เวลา 8 ประเทศที่นำเข้านํ้ามันจากอิหร่าน เช่น จีน อินเดีย ตุรกี ฯลฯ ค่อยๆปรับตัวด้วยการลดปริมาณนำเข้าจากอิหร่านและหาแหล่งนำเข้านํ้ามันจากที่อื่น

แต่สำหรับท่าทีล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการยุติระยะยกเว้นโดยสิ้นเชิงนั้นคาดว่าจะเป็นการทำให้นํ้ามันดิบของอิหร่านที่ส่งออกหายไปจากตลาดเป็นปริมาณมากหรือแทบจะทั้งหมด สถิติชี้ว่าอิหร่านส่งออกนํ้ามันดิบคิดเป็นปริมาณกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับประมาณ 1% ของความต้องการใช้นํ้ามันในตลาดโลก ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนและป้องกันราคาไม่ให้พุ่งแรง รัฐบาลสหรัฐฯ ได้พยายามเจรจาหว่านล้อมทางซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯและเป็นผู้ส่งออกนํ้ามันอันดับต้นๆ ของโลกให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบียไม่ได้ตกปากรับคำและยืนกรานข้อตกลงของโอเปกกับพันธมิตรที่จะขยายเวลาทุกๆ 6 เดือนสำหรับการจำกัดการส่งออกนํ้ามัน ซึ่งท่าทีของซาอุฯดังกล่าวก็ยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลว่าตลาดนํ้ามันโลกกำลังเข้าสู่ภาวะอุปทานตึงตัวและราคาพุ่งทะยาน

ราคาสูงสุดในรอบ 6 เดือน

เฮลิมา ครอฟท์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โภคภัณฑ์ บริษัทวิจัย อาร์บีซี แคปปิตอล มาร์เก็ตส์ ให้ความเห็นว่า อุปทานนํ้ามันในตลาดกำลังลดลง เมื่อประจวบกับการที่สหรัฐฯยกเลิกระยะยกเว้นให้กับมติควํ่าบาตรนํ้ามันจากอิหร่าน นั่นก็เท่ากับว่าอำนาจในการพยุงราคานํ้ามันได้ถูกหยิบยื่นให้กับซาอุดีอาระเบียว่าพร้อมจะเปิดก๊อกปล่อยนํ้ามันดิบออกสู่ตลาดมากหรือน้อยเพียงใด

อุปทานนํ้ามันโลกตึงตัว-ราคาจ่อพุ่งหลังมะกันเพิ่มระดับแซงก์ชันอิหร่าน

นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าจะยกเลิกการยกเว้นชั่วคราวให้กับมาตรการควํ่าบาตรนํ้ามันจากอิหร่าน ราคานํ้ามันดิบได้ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน โดยนํ้ามันดิบเบรนต์ทำสถิติที่ 75.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่นํ้ามันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐฯ ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 66.60 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่อยู่ในระดับ 71 ดอลลาร์และ 62 ดอลลาร์/บาร์เรลตามลำดับ

ตลาดนํ้ามันตึงตัวเพิ่ม

โดยการควํ่าบาตรนํ้ามันจากอิหร่านอย่างเข้มงวดมากขึ้นเหมือนที่สหรัฐฯกำลังทำอยู่นี้ เพียงมาตรการเดียวอาจจะไม่ทำให้เกิดภาวะ supply shock หรือการที่ปริมาณนํ้ามันหายออกไปจากตลาดอย่างฉับพลันซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อราคา แต่มาตรการควํ่าบาตรดังกล่าวก็จะทำให้ตลาดมีความอ่อนไหวต่อการเกิดภาวะนํ้ามันขาดตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ และหากเป็นเช่นนั้นราคาก็จะขยับสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า ภาวะนํ้ามันล้นตลาดที่เกิดขึ้นมาช่วงก่อนหน้านี้กำลังจะสิ้นสุดลงเมื่ออุปสงค์และอุปทานนํ้ามันเริ่มปรับสู่สภาพสมดุล นักวิเคราะห์บางสำนักมองว่าตลาดนํ้ามันกำลังเข้าสู่สภาวะอุปทานตํ่ากว่าอุปสงค์เล็กน้อยด้วยซํ้า เนื่องจากมีหลายเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นและสร้างผลกระทบต่ออุปทาน เช่นการที่สหรัฐอเมริกาควํ่าบาตรการส่งออกนํ้ามันของบริษัท PDVSA จากเวเนซุเอลา ทำให้ปริมาณการผลิตนํ้ามันดิบของเวเนซุเอลาดิ่งลงทันที หรือในประเทศลิเบีย ความขัดแย้งทางการเมืองที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้อุตสาหกรรมนํ้ามันในประเทศได้รับผลกระทบและเพิ่มความเสี่ยงให้กับอุปทานนํ้ามัน อีกประเทศที่กำลังมีปัญหาคือ ไนจีเรีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตนํ้ามันรายใหญ่ที่สุดของแอฟริกา กำลังมีวิกฤติไฟฟ้าดับเป็นระยะ ในยุโรปเองก็มีปัญหากับนํ้ามันปนเปื้อนที่ส่งออกมาตามท่อนํ้ามันจากรัสเซีย ทำให้ปริมาณนํ้ามันที่จะส่งป้อนให้กับโรงกลั่นในยุโรปต้องพบกับภาวะชะงักงัน

ขณะเดียวกัน โอเปกและพันธมิตรรวมถึงรัสเซีย ก็พยายามควบคุมปริมาณนํ้ามันในตลาดโดยจะลดการส่งออกให้น้อยลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน

ก่อนหน้าที่สหรัฐอเมริกาจะประกาศควํ่าบาตรนํ้ามันจากอิหร่านในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา (2561) โอเปกและพันธมิตรเพิ่งเพิ่มกำลังการผลิต แต่เมื่อสหรัฐฯควํ่าบาตรอิหร่านโดยมีข้อยกเว้นให้บางประเทศสามารถนำเข้าจากอิหร่านได้ชั่วคราวจนกว่าสหรัฐฯจะมีประกาศยกเลิก ปริมาณนํ้ามันที่เข้าสู่ตลาดจึงมากเกินคาดและทำให้ราคานํ้ามันดิบซื้อขายล่วงหน้าปรับร่วงลง โดยราคานํ้ามันเบรนต์ของฝั่งยุโรปหล่นจาก 86 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับเพียง 50 ดอลลาร์/บาร์เรล และทำให้โอเปกต้องเรียกประชุมลงมติหั่นกำลังการผลิตลงในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย แกนนำกลุ่มโอเปก เปิดเผยว่า ราคาที่เหมาะสมนั้นควรอยู่ในเกณฑ์ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล มติลดกำลังการผลิตของโอเปกที่ใช้มาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ปัจจุบัน ซาอุฯ ยังผลิต นํ้ามันดิบในปริมาณตํ่ากว่าโควตา ที่ได้รับภายใต้ข้อตกลงของโอเปกราวๆ 500,000 บาร์เรล/วัน จึงยังมีโอกาสเพิ่มกำลังผลิตได้อีก

รายงานข่าวระบุว่า ในระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายน 2562 โอเปกจะมีการประชุมอีกครั้งเพื่อพิจารณาว่าจะขยายอายุข้อตกลงดังกล่าว 

หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3468 ระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2562

อุปทานนํ้ามันโลกตึงตัว-ราคาจ่อพุ่งหลังมะกันเพิ่มระดับแซงก์ชันอิหร่าน