ชง ‘วิกฤติไอเฟค’ พิสูจน์ฝีมือ เลขาฯก.ล.ต.คนใหม่

05 พ.ค. 2562 | 11:49 น.

รายงาน

นับตั้งแต่ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค เกิดวิกฤติเมื่อปลายปี 2559 เนื่องจากมีปัญหาฐานะทางการเงิน ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ไม่นำส่งงบการเงินตามกำหนด จนหุ้นถูกพักการซื้อขาย ตั้งแตวันที่่ 12 มกราคม 2560 เป็นต้นมา
นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการไอเฟค ถูกตั้งข้อสงสัยในความไม่โปร่งใส และเป็นต้นเหตุแห่งชนวนวิกฤติ การล่มสลายของไอเฟค และอาจเป็นต้นตอสำคัญที่ทำให้ “ไอเฟค” ต้องล่มสลาย เสียหายกว่า 12,000 ล้านบาท

นายวิชัย ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษกรณีกระทำโดยทุจริต โดยแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้ เพื่อตัวเองหรือบุคคลอื่น เป็นเหตุให้ไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนได้ ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์พ.ศ. 2535 ในวันที่ 5 กันยายน 2560  และถูกก.ล.ต.กล่าวโทษเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 กรณีกระทำทุจริตต่อหน้าที่ จากการไม่เปิดเผยข้อมูลการผิดนัดชำระตั๋วแลกเงิน (บี/อี) จนเป็นเหตุให้หุ้นไอเฟค ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2560 ซึ่งทำให้นายวิชัยได้ประโยชน์ โดยหุ้นไอเฟคที่นายวิชัยถือไว้และเป็นหลักประกันบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทมาร์จิน รวมกว่า 57.46 ล้านหุ้น ไม่ถูกบังคับขาย  ทำให้นายวิชัยยังคงสภาพการเป็นผู้ถือหุ้นไอเฟค สามารถลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการในการประชุมผู้ถือหุ้นจำนวน 3 ครั้งในปี 2560 เพื่อประโยชน์ต่อตนเอง ก.ล.ต.จึงกล่าวโทษนายวิชัยต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย

ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นกว่า 30,000 คน ต้องได้รับความเสียหายมูลค่ามากกว่า 6,000 ล้านบาท อีกทั้งยังมียอดผิดนัดชำระเจ้าหนี้ตั๋วแลกเงิน (บี/อี) อีก 3,000 ล้านบาท และเจ้าหนี้หุ้นกู้อีก 3,000 ล้านบาท  ผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ อยู่ในสภาพสิ้นหวัง ถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยงานกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ช่วยรื้อค้นปมที่อาจไม่โปร่งใสในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ ผู้ถือหุ้นท่านหนึ่งที่ร่วมเดินทางมายื่นหนังสือที่ ก.ล.ต.กล่าวว่า “ไม่เข้าใจหมอวิชัย ว่ามีเจตนาอะไร ทำไมไม่สงสารผู้ถือหุ้น ไม่สงสารเจ้าหนี้หุ้นกู้ที่นำเงินเกษียณ เงินก้อนสุดท้ายมาลงทุนในไอเฟค หมอวิชัย อยู่มา 2 ปี ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่ส่งงบการเงิน ไม่ชำระหนี้ ขัดขวางการจัดประชุมผู้ถือหุ้น คัดค้านการจดทะเบียนกรรมการ และยังไปขอศาลแพ่งคุ้มครองไม่ให้กรรมการชุดใหม่ได้ทำหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหาของบริษัทอีก”

“ตอนแรกหมอวิชัยถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษไปแล้ว 2 ครั้ง คิดว่าจะจบ แต่ตอนนี้หมอวิชัยก็ยังนั่งบริหารงานเป็นกรรมการในบริษัทลูก เกือบทั้ง 45 บริษัท ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ ทำให้หมอวิชัยนั่งบริหารบริษัทย่อย​ที่มีเงินรายได้ประมาณ 40 ล้านบาทต่อเดือนแต่ปล่อยให้ ไอเฟคที่เป็นบริษัทแม่ได้รับความเสียหาย​ โดยเฉพาะปัญหาที่ไอเฟคไม่สามารถจัดทำงบการเงิน​ เพราะไม่สามารถรับรู้ฐานะกิจการของบริษัทย่อยได้ 
ผู้ถือหุ้น จึงหวังให้ท่านเลขาธิการ ก.ล.ต. ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้รับทราบปัญหาของไอเฟค และเร่งผลักดันให้บริษัทเดินหน้าแก้ไขปัญหาโดยเร็ว

วิกฤติไอเฟค จะเป็นบทพิสูจน์ ท้าทายความสามารถต้อนรับตำแหน่งท่านเลขาธิการคนใหม่ “รื่นวดี สุวรรณมงคล” เลขาธิการฯ ก.ล.ต.คนที่ 9 จะสามารถ “ผ่าทางตัน” ช่วยให้ก้าวข้ามผ่านปัญหาที่เกิดขึ้นกับไอเฟคได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ผู้ถือหุ้น หุ้นกู้ ตั๋วบี/อี เฝ้าแต่ภาวนา และรอความหวัง เพราะยิ่งปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ รังแต่จะสร้างความเสียหาย กระทบความเชื่อมั่นการลงทุนในตลาดหุ้นไทย