ครม.อนุมัติงบกลาง 1.2 พันล.สู้ภัยแล้ง เดินหน้า 144 โครงการเก็บกักน้ำ-เพิ่มน้ำต้นทุน
-30 เม.ย.62-พล.ท.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ครม.อนุมัติงบกลางปี 2562 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นสำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำและเพิ่มน้ำต้นทุนเพื่อบรรเทาภัยแล้ง แระรองรับปริมาณน้ำฝนในปีนี้ รวม 144 โครงการ วงเงินรวม 1,226 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในฤดูแล้งเพื่อบริหารจัดการเชิงป้องกันอย่างต่อเนื่องของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) พบว่า ยังมีพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งและตามประกาศเขตผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยแล้งโดยผู้ว่าฯในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วย ร้อยเอ็ด นครราชสีมา ศรีสะเกษ ตราด และชลบุรี ช่วงที่ผ่านมา ทั้งยังมีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนแหล่งน้ำอีกประมาณ 18 จังหวัดในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคใต้ จึงได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายและหน่วยงานที่มีภารกิจด้านน้ำร่วมกันเพื่อหารือและแนวทางบรรเทาภัยแล้งเฉพาะหน้าเร่งด่วนและระยะกลาง
วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำและการเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำเดิมในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ในพื้นที่เขตขาดแคลนน้ำ และเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ ในพื้นที่ภัยแล้งและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บท โดยมีพื้นที่เป้าหมาย 4 ประเภท คือ 1.พื้นที่ประกาศภัยแล้งเพื่อการอุปโภคบริโภค ปี 2561-2562 รวม 5 จังหวัด 2.พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ปี 2561-2562 รวม 18 จังหวัด 3.พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรนอกเขตชลประทาน ปี 2561-2562 รวม 9 จังหวัด และ4.พื้นที่เกิดภัยแล้งซ้ำซากที่จะทำให้เกิดความต้องการแหล่งน้ำของชุมชนเพิ่มขึ้นอีก รวม 11 จังหวัด ทั้งนี้ ต้องเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมทันที และผ่านการจัดทำการทำประชาคมแล้ว ทั้งยังมีระยะเวลาดำเนินการโครงการให้เสร็จภายใน 90 วัน รวมทั้งสิ้น 144 โครงการ รวมงบประมาณ 1,226 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำได้ประมาณ 28.12 ล้านลูกบาศก์เมตร มีครัวเรือนได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 85,474 ครัวเรือน เป็นโครงการในพื้นที่เป้าหมาย 99 โครงการ งบประมาณ 921 ล้านบาทเศษ และโครงการนอกพื้นที่เป้าหมาย 45โครงการ งบประมาณ 304 ล้านบาทเศษ