บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 23 เมษายน 2562 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไรบางส่วน เพื่อรอการอ่อนตัวลงของราคาหากไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงพิจารณาเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่หากยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์มีโอกาสที่ราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้านได้
แนวรับ 1,267 1,256 1,248
แนวต้าน 1,288 1,300 1,309
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลงราว 61 เซนต์ หลังจากระหว่างวันราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,279.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังยอดขายบ้านสหรัฐร่วงลงมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนมี.ค. ประกอบกับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจากข่าวที่ว่าสหรัฐวางแผนที่จะยุติการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ช่วยหนุนสกุลเงินที่เกี่ยวกับโภคภัณฑ์ เช่น ดอลลาร์แคนาดา จนกดดันให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหนุนราคาทองคำ อย่างไรก็ดีราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัดโดยยังมีปัจจัยเชิงลบที่กดดันให้เกิดแรงขายในตลาดทองคำเป็นระยะ อาทิ กองทุน SPDR ที่ถึงแม้จะถือทองคำไม่เปลี่ยนแปลงวานนี้ แต่ก็ถือว่าปริมาณการถือครองทองคำอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 6 เดือน สะท้อนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ชะลอตัวลง ด้านข้อมูลของ CFTC ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 เม.ย. บ่งชี้ว่ากองทุนเฮดจ์ฟันและผู้จัดการกองทุนได้เพิ่มสถานะขาย(Short positions)ในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำ COMEX จนทำให้สถานะสุทธิในตลาดกลับมาเป็นสถานะขายสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 17 สัปดาห์ บ่งชี้ถึงแรงเก็งกำไรในทิศทางขาลงที่กลับมาเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลบต่อราคาทองคำเพิ่มเติม สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน (HPI), ยอดขายบ้าน
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด