ชง2มาตรการคุมยา ขายเกินราคามีโทษ

พาณิชย์เตรียมชง 2 มาตรการคุมราคายา-เวชภัณฑ์เข้าอนุกรรมการฯ พ.ค.นี้ ก่อนสรุปและเสนอกกร.เห็นชอบเพื่อประกาศบังคับใช้ คาดว่าภายในกลางปีนี้จะเห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาราคายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานฯ ได้เตรียมเสนอ 2 แนวทางสำหรับมาตรการในการดูแลราคายา เวชภัณฑ์ และบริการเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการกำกับดูแลราคายาและเวชภัณฑ์ ซึ่งมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบ คาดว่าจะเสนอได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 ก่อนจะเสนอให้คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เพื่อพิจารณาประกาศให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ คาดว่าน่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้ภายในกลางปี 2562 นี้

สำหรับ 2 แนวทางที่จะเสนอประกอบด้วย 1.กำหนดให้สถานพยาบาลแสดงราคายาและเวชภัณฑ์ให้ชัดเจน ซึ่งเป็นรายประเภท รายชนิดของยา ส่วนจะผ่านช่องทางใดนั้น จะต้องพิจารณากันอีกครั้ง 2.กำหนดให้สถานพยาบาลแสดงรายการ ราคายาและเวชภัณฑ์ ในใบสั่งยาให้ชัดเจน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อยาได้จากร้านค้านอกสถานพยาบาลได้ ซึ่งคณะทำงานฯ ได้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือ

ทั้งนี้ เมื่อกกร. เห็นชอบและประกาศใช้มาตรการดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว หากสถานพยาบาลไม่ดำเนินการ จะมีบทลงโทษ เข้าข่ายมาตรา 29 ขายเกินราคา หรือ ไม่ปิดป้ายราคา หรือ ไม่แจ้งราคา ไม่แจ้งปริมาณ ซึ่งแต่ละโทษจะมีความแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ต้องรอการประชุม กกร. พิจารณาออกมาตรการเป็นที่เรียบร้อย และประกาศบังคับใช้จะทำให้ทราบว่าบทลงโทษสำหรับผู้ไม่กระทำตามเป็นอย่างไร

ส่วนความคืบหน้าที่คณะทำงานฯขอความร่วมมือให้โรงพยาบาลเอกชน รวมไปถึงโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ผู้ผลิตและผู้นำเข้ายาและเวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายยารายใหญ่ และรายเล็กทั้งสิ้น 353 ราย แจ้งข้อมูลการซื้อขาย ราคาซื้อขายสำหรับยาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ และต้นทุนที่เกี่ยวข้อง มายังกรมการค้าภายในเป็นที่เรียบร้อย โดยข้อมูลกว่า 80% ถือว่าครบสมบูรณ์ ส่วนอีก 20% อยู่ระหว่างขอข้อมูลเพิ่มเติม

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,463 วันที่ 21-24  เมษายน 2562