ครม. ไฟเขียว! MOU เดินรถไฟ "ไทย-กัมพูชา"

17 เม.ย. 2562 | 10:51 น.


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2562 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

 

ครม. ไฟเขียว! MOU เดินรถไฟ "ไทย-กัมพูชา"

 

1. ครม. พิจารณาอนุมัติโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) วงเงินลงทุนรวม 21,795.941 ล้านบาท โดย ทอท. จะสามารถลงนามผูกพันในสัญญาก่อสร้างโครงการฯ เมื่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการ หรือ กิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ (EHIA) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว

ปัจจุบัน ทสภ. มีทางวิ่ง 2 เส้น ซึ่งมีขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และกรณีการปิดซ่อมบำรุงรักษาทางวิ่ง หรือ เกิดเหตฉุกเฉิน ขีดความสามารถทางวิ่งลดลงเหลือ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ขณะที่ ความต้องการสูงสุดอยู่ที่ 50 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดความล่าช้าของเที่ยวบิน ทั้งทางภาคอากาศและภาคพื้น ทำให้อากาศยานสิ้นเปลืองน้ำมันและระยะเวลาการเดินทางของผู้โดยสารเพิ่มขึ้น การก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 เป็นการก่อสร้างทางวิ่งฝั่งตะวันตก ความยาว 4,000 เมตร ความกว้าง 60 เมตร

รวมระบบทางขับ ระบบระบายน้ำ เครื่องช่วยเดินอากาศแบบทัศนวิสัย (Visual Aids) สถานีกู้ภัยและดับเพลิง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินเป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง รวมทั้งในกรณีปิดซ่อมทางวิ่งจะทำให้สามารถรักษาคุณภาพการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่สูญเสียโอกาสการเป็นศูนย์กลางการบินในอนาคต และสามารถรองรับปริมาณจราจรทางอากาศได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ทสภ. ออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างทางวิ่งฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในปี 2562 และคาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2565

 

ครม. ไฟเขียว! MOU เดินรถไฟ "ไทย-กัมพูชา"


2. ครม. อนุมัติการจัดทำความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย โดยการจัดทำความตกลงเป็นผลมาจากการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง 2 ประเทศ ว่าด้วยการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2557 ปัจจุบัน การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการปรับปรุงเส้นทางรถไฟและก่อสร้างสะพานรถไฟระหว่างประเทศแล้วเสร็จสมบูรณ์

 

ครม. ไฟเขียว! MOU เดินรถไฟ "ไทย-กัมพูชา"

 

โดยนายกรัฐมนตรีของไทยมีกำหนดการเข้าร่วมพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) พิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างอาคารด่านศุลกากรและถนนเชื่อมต่อฝั่งกัมพูชา พิธีเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก พิธีลงนามความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และพิธีส่งมอบรถไฟดีเซลราง ในวันจันทร์ที่ 22 เม.ย. 2562 ณ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยพิธีลงนามความตกลงดังกล่าวจะมีนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม

ความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา มีสาระความสำคัญเกี่ยวข้องกับการเดินรถไฟระหว่างประเทศ ครอบคลุมทั้งด้านการโดยสารและการขนส่งสินค้าทางรถไฟ การกำหนดนิยามคำศัพท์และการตีความ เช่น สถานีรถไฟระหว่างประเทศ สถานีชายแดน ทรัพย์สินร่วม เป็นต้น รวมถึงการระบุถึงกรรมสิทธิ์ที่ดิน พนักงานสถานีระหว่างประเทศ การจัดการเดินรถผ่านแดน การจัดหาล้อเลื่อนและการคิดค่าลากจูง ความรับผิดชอบต่อความเสียหาย และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมล้อเลื่อน ความรับผิดชอบต่อการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บ สินค้าสูญหาย

 

ครม. ไฟเขียว! MOU เดินรถไฟ "ไทย-กัมพูชา"

 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สรุปการให้บริการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ของกระทรวงคมนาคม ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย. 2562 ซึ่งจากการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัยฯ สามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ ดังนี้

1.ประชาชนต้องได้รับความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่างเพียงพอ ไม่ล่าช้า และไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ณ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า ท่าเรือ และท่าอากาศยาน

2.การบริหารจัดการจราจร เส้นทางหลักบนโครงข่ายคมนาคม สามารถเคลื่อนตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนชั่วโมงที่การจราจรติดขัด ลดลง 2-3 ชั่วโมง จากเทศกาลสงกรานต์ 2561

3.จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ บนโครงข่ายคมนาคมลดลง เมื่อเทียบกับเทศกาลสงกรานต์ 2561 (จำนวนครั้งลดลง 16.58% จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง 13.69% จำนวนผู้บาดเจ็บลดลง 17.84%)

4.จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุและจำนวนผู้บาดเจ็บบนโครงข่ายคมนาคมที่เป็นจุดเสี่ยง จุดควบคุม และเส้นทางเฝ้าระวัง 111 เส้นทาง ลดลงกว่าปีที่ผ่านมา (จำนวนครั้งลดลง 26.27% จำนวนผู้บาดเจ็บลดลง 48.89% แต่จำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 คน)

5.ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนทางด่วน ทางยกระดับดอนเมือง และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง

6.เกิดอุบัติเหตุรถตู้ฝ่าแผงกั้นชนรถไฟบริเวณจุดตัดรถไฟ จ.ลพบุรี มีผู้เสียชีวิตจำนวน 6 ราย ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการป้องกันและลดอุบัติเหตุให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คือ การรณรงค์ให้ผู้ขับขี่มีวินัยในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องต่อไป

 

ครม. ไฟเขียว! MOU เดินรถไฟ "ไทย-กัมพูชา"