ยึด 4 ภาคจัดงาน “Water Festival 2019 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย”
ในแต่ละปี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยเพิ่มไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน เป็นที่มาให้ ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฯลฯ รวมใจจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่สิ่งที่ดีงามผ่านการจัดงาน “Water Festival 2019 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย”
งานดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 และจัดขึ้นพร้อมกัน 4 ภาค 4 จังหวัดได้แก่ เอเชียทีค กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ภูเก็ต และอุดรธานี โดยงานปีนี้มาพร้อมแนวคิด “อยู่เย็น เป็นสุข” ชูความเป็นไทยให้โลกเห็น รวมหลากหลายวัฒนธรรม ประเพณี สีสันกีฬา การละเล่นแบบไทย รำวง ชิงช้าสวรรค์ ฯลฯ มาไว้พร้อม แถมท้ายไฮไลท์สำหรับในกรุงเทพฯคือบริการเรือฟรี ล่อง ๙ ท่าน้ำริมเจ้าพระยา แวะไหว้สักการะพระพุทธรูป ๔ วัดดังคู่ชุมชนริมน้ำและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย โดยผู้ที่สนใจสามารถขึ้นเรือได้ที่ เอเชียทีค
ขณะที่กิจกรรมไฮไลท์อื่นๆอาทิ สักการะพระวัดดังที่อยู่คู่แผ่นดินไทยมาช้านาน อาทิ พระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งรัชกาลที่ 1 ทรงอัญเชิญมาจากวัดศาลาสี่หน้า (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร) หลวงพ่อรุ่งอรุณ (วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร) เพื่อความรุ่งเรือง หลวงพ่อพุทธนาคน้อย (วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร) เพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน การศึกษา
การสรงน้ำพระประจำวันเกิด ที่นิยมทำตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ เพื่อสะเดาะเคราะห์ เสริมต่างๆ ปรางค์ต่างๆ ละเอียดอ่อน แฝงด้วยกุศโลบาย ฯลฯ
การรดน้ำดำหัว แสดงความนอบน้อม และขอพรจากผู้ใหญ่ รวมถึงการขอโทษ ขออภัย ซึ่งกันและกัน มีทั้ง ดำหัวตัวเอง ดำหัวผู้น้อย และดำหัวผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นประเพณีที่ยังทรงคุณค่าถึงทุกวันนี้
การก่อพระเจดีย์ทราย คนไทยผูกโยงกับพระพุทธศาสนา การก่อเกิดจากนำเศษดินทรายที่ติดเท้าออกไปจากวัดไปมาคืนวัดในรูปเจดีย์ เหนือสิ่งอื่นใดยังมีคติที่แฝงไว้ อยากให้ชุมชนสร้างสามัคคี
นอกจากนั้นแล้วยังมีกิจกรรม เช่น รำวงย้อนยุค สามช่า มวยทะเลฮาเฮ ชิงช้าสวรรค์ บูทผ้าขาวม้า ฯลฯ รวมไว้ในที่เดียว สำหรับผู้ที่สนใจร่วมงาน“Water Festival 2019 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” สามารถร่วมสนุกได้ที่ 4 เมืองใหญ่ได้แก่ เอเชียทีค กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ภูเก็ต และอุดรธานี ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนนี้