ข่าวห้ามเขียน : พิลึก! ประเทศ(กู)มี
มาคุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกเลย!!!!! LINE : @THANSETTAKIJ
กรณีของรัฐวิสาหกิจไทยที่มีอนาคตอันสดใสในเรื่องธุรกิจการบิน เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่มี “ซามูไรอ๊อฟ-นิตินัย ศิริสมรรถการ” เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ “ปลัดสงค์-ประสงค์ พูนธเนศ”ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ ก็กำลังสร้างบรรทัดฐานใหม่ของรัฐวิสาหกิจไทย
ล่าสุดพรานบุญได้รับทราบข้อมูลจากคณะกรรมการ AOT ว่า รู้สึกอึดอัดใจในการตัดสินใจเดินหน้าจัดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 1 สัญญา และการประมูลร้านค้าปลอดภาษีอากร (ดิวตี้ฟรี) ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 สัญญา และการประมูลดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานภูเก็ต, เชียงใหม่ และหาดใหญ่ อีก 1 สัญญา
เพราะงานนี้ ผู้บริหารของ AOT ขี่พายุทะลุฟ้า กล้าเปิดขายซองทีโออาร์ไปตั้งแต่วันที่ 1-18 เมษายน 2562 กำหนดเปิดซองเสนอค่าตอบแทนและประกาศผลในวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
เรียกว่า เป็นการดำเนินการประมูลควบคู่ไปกับกระบวนการรอคณะกรรมการนโยบายการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ดพีพีพี) พิจารณาว่าโครงการดังกล่าวต้องนำเข้าพิจารณาตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯหรือไม่และต้องทำอย่างไร...
แต่เพื่อป้องกันปัญหาการฟ้องร้องที่เกิดขึ้นในอนาคต ทีโออาร์การประมูลใน 3 สัญญา เขียนผูกไว้เป็น “เงื่อนไขพิเศษ” ว่า AOT ขอสงวนสิทธิ์ “การยกเลิกการประมูล” หากโครงการนี้เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จสมบูรณ์
หากบอร์ดพีพีพีมีมติว่า ไม่ต้องเข้าข่ายพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ การประมูลก็เดินหน้าต่อไป แต่หากบอร์ดพีพีพีมีมติว่าต้องเข้าข่ายพ.ร.บ.ร่วมทุนฯก็ต้องยกเลิกการประมูลทันที เพื่อกลับไปเริ่มนับ 1 ของกระบวนการ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ...นี่เป็นแทกติกที่นักดาบซามูไรอ๊อฟ-นิตินัย กำลังเล่นกะไฟของร้อน...ทำได้ก็ไม่เป็นไร พลาดไปถึงฮาราคีรีตัวเองเชียวนะขอรับ
มาคุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกเลย!!!!! LINE : @THANSETTAKIJ
พรานฯขอบอกว่า นี่เป็นโครงการแรก เป็นบรรทัดฐานแรกของหน่วยงานรัฐที่เหยียบคันเร่งเดินหน้าประมูล โดยไม่รอคำตัดสินชี้ขาดว่า เข้าข่ายพ.ร.บ.ร่วมทุนฯหรือไม่ ชนิดไม่มีใครยอมใคร
อันว่า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เดิมนั้นเขียนกำหนดคำนิยามให้การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ทุกโครงการต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่พ.ร.บ.ร่วมทุนฯฉบับใหม่ที่ผ่านความเห็นชอบจาก สนช. จะระบุเฉพาะโครงการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะที่เกี่ยวข้อง ว่ามีเรื่องใดที่เกี่ยวข้องบ้างไว้ในมาตรา 7 วรรค 2 ซึ่งมีทั้งหมด 12 ด้าน
หนึ่งในนั้น กำหนดกิจการเกี่ยวกับท่าอากาศยาน การขนส่งทางอากาศไว้ แต่มีการเห็นแย้งโดยบอร์ดของ AOT ว่าดิวตี้ฟรีมิใช่กิจการหลักที่จะเข้าข่ายกิจการที่เกี่ยวข้องกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะและทางผู้บริหาร AOT พยายามจะหาทางบอกว่า วงเงินผลตอบแทนไม่ถึงกฎหมายกำหนด
อะแฮ่ม...ความจริงพรานฯทราบมาว่า มีมือดีพยายามที่จะทำให้โครงการนี้ไม่เข้าข่ายกฎหมายร่วมทุน ถึงขนาดมีการตั้ง “อัยการสูงสุด” ที่ทำหน้าที่ในการดูแลสัญญา ตรวจสอบสัญญา มาเป็นประธานอนุกรรมการพิจารณาเรื่องนี้ แทนที่ “เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา” ที่ปกติจะเป็นผู้ชี้ขาดในประเด็นข้อพิพาททางกฎหมาย
จุ๊ๆ...หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด...พรานฯได้ยินคำโบราณสอนไว้มายาวนาน...
เรื่องนี้อาจไม่ปกติในกระบวนการทำงานของหน่วยงานรัฐ ที่ตามปกติวิสัย มักจะทำให้รัดกุม รอบคอบ เดินตามระเบียบ แต่รอบนี้พิลึกพิลั่นสุดๆ เพราะเป็นการเดินเกมอย่างเต็มสูบของบอร์ดและผู้บริหารของ AOT ที่มีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการคลังนั่งกันอยู่เต็มพึ่บพั่บไปหมด 5-6 คน ตั้งแต่ปลัดกระทรวง-อธิบดีกรมบัญชีกลาง-อธิบดีกรมศุลกากร-อดีตอธิบดีอีกเพียบ...
แถมมีเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม สราวุธ เบญจกุล มีผู้บัญชาการสำนักพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก มีรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีอดีตเจ้ากรมสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทหารอากาศ คอยคัดท้าย...นัยว่า...ถ้าชักช้าผู้รับสัมปทานรายเดิม ที่จะหมดสัญญาไปจะได้ประโยชน์จากการขยายสัญญาออกไปจนกว่าจะมีรายใหม่
ที่อื่นไม่รู้เป็นอย่างไร แต่ที่รัฐวิสาหกิจที่ดูแลสนามบินแห่งนี้ ซึ่งในปีสองปีที่ผ่านมาจ่ายโบนัสพนักงานกันปีละ 7.75 เดือนนั้น สร้างบรรทัดฐานใหม่ในการทำงานแบบไม่สนว่าจะตีความอย่างไร ขัดกฎหมายหรือไม่ ถ้าขัด ล้มประมูล ถ้าไม่ขัดเดินหน้าต่อแบบทอเต็มผืน
งานนี้ท้าทายฝีมือ ซามูไรอ๊อฟ-นิตินัย ที่ดำรงตำแหน่งนี้มายาวตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2558 ครบวาระ 4 ปี วันที่ 20 เมษายน 2562 แต่ บอร์ด ทอท.มีมติต่ออายุให้ทำงานต่อยาวไปอีก 4 ปี กะให้เสี่ยอ๊อฟนำพารัฐวิสาหกิจที่เป็นขุมทรัพย์ทองคำแห่งนี้ยาวไปโน่นถึง 19 เมษายน 2566
ฝีมือการทำงานแบบฟาสต์แทร็กแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องการ ชิมิ
| คอลัมน์ : ข่าวห้ามเขียน
| โดย : พรานบุญ
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3460 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.2562