ไอเดียเจ๋งๆ จากสตาร์ตอัพอิสราเอล กับนวัตกรรม “เอดับบลิวจี” หรือ Atmospheric Water Generator : AWG “การแปลงอากาศเป็นนํ้าด้วยเครื่องผลิตนํ้าจากอากาศ” ในนามของ WaterGen ซึ่งคิดค้นและก่อตั้งโดย Arye Kohavi ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าบริหารร่วม
เขาได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการดึงนํ้าจากความชื้นในอากาศมาผลิตเป็นนํ้าจืดที่สามารถบริโภคได้ สะอาด ปราศจากมลพิษ ตั้งแต่ปี 2552 และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน จนกลายเป็นนวัตกรรมที่สามารถลดภาระการใช้นํ้าจากแหล่งนํ้าจืดต่างๆ รวมถึงมีความยั่งยืนสูง
คุณสมบัติและความน่าสนใจของนวัตกรรม AWG พบว่าในกระบวนการผลิตนํ้า นํ้าดื่มที่ได้จากเครื่อง AWG เป็นนํ้าสะอาด บริสุทธิ์ รสชาติคล้ายนํ้าฝน ไม่มีการบำบัดด้วยสารเคมีหรือคลอรีน นอกจากจะมีความปลอดภัยและสะอาดแล้ว เครื่องมือดังกล่าวยังสามารถผลิตนํ้าดื่มสะอาดได้โดยเฉลี่ยหลักสิบ - พันลิตรต่อวัน ทั้งนํ้าร้อนและนํ้าเย็น ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อนํ้าดื่มโดยรวมได้ถึงหลักพันบาทต่อเดือน ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกจากการซื้อนํ้าดื่มบรรจุขวด
นอกจากนี้ ยังจะช่วยในเรื่องของระบบชลประทานในพื้นที่ฟาร์ม ที่สามารถลดการกักเก็บนํ้า เหมาะกับการปลูกพืชแนวดิ่งที่มีคุณภาพสูง ลดอุปสรรคในการขนส่งหรือลำเลียงนํ้า เนื่องจากสามารถติดตั้งได้ในทุกพื้นที่ แม้สภาพแวดล้อมจะไม่อำนวย และยังช่วยแก้ปัญหาการผูกขาดของตลาดสินค้านํ้าดื่มได้อีกด้วย
ช่องทางและโอกาสทางการตลาดของ AWG มีแนวโน้มไปได้ดีมาก เนื่องจากปริมาณนํ้าจืดสำรองที่ลดลงและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราการเติบโตของตลาดจะอยู่ที่ 9.5% ต่อปี ส่วนแนวโน้มการใช้เทคโนโลยี AWG ระหว่างปี 2562 - 2565 คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย โดยในปี 2562 AWG จะถูกนำไปประกอบการชลประทานขนาดใหญ่ของพื้นที่เพาะปลูกในเขตแห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง ปี 2563 จะมีการใช้ AWG ขนาดใหญ่ในที่พักตามเมืองเล็กๆ และชุมชน ซึ่งจะทำให้ไม่มีมลพิษ มีนํ้าสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภค และช่วยลดการใช้นํ้าตามแหล่งธรรมชาติ
ขณะที่ปี 2564 คาดว่าจะมีการติดตั้งระบบ AWG ในรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งจะช่วยสร้างนํ้าจืดได้ตามระยะการเดินทางของรถ ส่วนในปี 2022 คาดว่านํ้าที่ผลิตได้คุณภาพตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะมีรายได้ในตลาดโลกอยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังคาดว่านวัตกรรมดังกล่าวยังจะมีการเติบโตใน 3 กลุ่มตลาดที่สำคัญ ได้แก่ 1.ทวีปอเมริกาเหนือ ที่ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและผู้บริโภคมีความพร้อม (Mature Market) ซึ่งขณะนี้องค์การพัฒนาระหว่างประเทศแห่งแคนาดาและกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ได้ให้การสนับสนุนเงินทุนพัฒนาต้นแบบที่หลากหลายเชิงพาณิชย์ เพื่อผลิตนํ้าดื่มที่ปลอดภัยในอนาคต 2.ทวีปยุโรป กำลังมีการร่วมมือระหว่างผู้คิดค้นนวัตกรรมและผู้ผลิตนํ้าพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อผลิตนํ้าจืดจากอากาศที่จะถูกนำมาใช้แทนระบบผลิตนํ้าจืดจากทะเล และ 3. เอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งล่าสุดบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศอินเดียได้ร่วมมือกับสตาร์ตอัพชั้นนำจากอิสราเอล ติดตั้งเครื่องผลิตนํ้าจากอากาศทั่วประเทศเพื่อผลิตนํ้าดื่มที่ปลอดภัยโดยเครื่องผลิตนํ้าจากบรรยากาศขนาดกลางและขนาดใหญ่ สามารถผลิตนํ้าจากอากาศได้มากถึง 6,000 ลิตรต่อวัน
ปัจจัยเร่งปริมาณความต้องการเครื่องผลิตนํ้าจากอากาศ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงใน 6 ปัจจัย ได้แก่ นวัตกรรมสู่ความเป็นศูนย์ (Innovating to Zero) การเกิดขึ้นของสังคมเมือง กระแสการใส่ใจในสุขภาพ การสร้างความแตกต่างให้กับโมเดลธุรกิจ การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การค้นหาพลังงานใหม่ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตในอนาคต รวมถึงในกลุ่มประเทศที่มีสภาพอากาศแห้งแล้งรุนแรง และมีข้อจํากัดด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะสภาพอากาศแบบทะเลทรายและกึ่งทะเลทราย ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาแหล่งนํ้าไม่เพียงพอทั้งนํ้าอุปโภค-บริโภค และนํ้าสำหรับการเกษตร
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA โดยสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม (Innovation Foresight Institute : IFI ) เล็งเห็นว่า การเกิดขึ้นของเทคโนโลยี AWG ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับสตาร์ตอัพและนักพัฒนาไทย ในการพัฒนาและผลิตพลังงานสะอาดและยั่งยืน
หน้า 23 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3460 วันที่ 11-13 เมษายน 3562