สทนช. ระบุ สมาชิก MRC ร้องขอรัฐบาล สปป.ลาว คำนึงผลกระทบการสร้าง "เขื่อนไฟฟ้า" แม่น้ำโขง แนะควรมุ่งเน้นด้านความปลอดภัย พร้อมเร่งสื่อสารทำความเข้าใจด้านการข้ามพรมแดน เศรษฐกิจ และสังคม
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เปิดเผยว่า ล่าสุด ตนได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง สมัยวิสามัญ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนปากลาย ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พร้อมด้วย นายประดับ กลัดเข็มเพชร ผู้ช่วยเลขาธิการ สทนช., รศ.ชัยยุทธ สุขศรี ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากประเทศไทย ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย
สำหรับการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสจากประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission : MRC) มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการดำเนินการกระบวนการตามระเบียบปฏิบัติ เรื่อง : การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (Procedures for Notification, Prior Consultation and Agreement : PNPCA) ของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนปากลาย (the Pak Lay Hydropower Project) สปป.ลาว ซึ่งจะเป็นโครงการเขื่อนแม่น้ำโขงสายหลักแห่งที่ 4 ต่อจากไซยะบุรี ดอนสะโฮง และปากแบง
"คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงในเรื่องดังกล่าว ภายใต้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน (1995 Mekong Agreement) โดยประเทศสมาชิกขอให้รัฐบาล สปป.ลาว ดำเนินโครงการโดยคำนึงถึงผลกระทบด้านต่าง ๆ ดังนี้ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางอุทกวิทยา การออกแบบเขื่อนต้องพิจารณาการเพิ่มประสิทธิภาพการพัดพาตะกอนให้สอดคล้องกับฤดูกาล การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกของทางปลาผ่าน (Fish Passage Facilities) การสร้างความเข้าใจในเรื่องผลกระทบข้ามพรมแดนและผลกระทบด้านเศรษฐกิจ-สังคม"
อีกทั้งควรปรับปรุงการออกแบบเขื่อนให้มีความปลอดภัย การเพิ่มความปลอดภัยของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเดินเรือ และการมีระบบติดตามตรวจสอบร่วมกันของประเทศสมาชิก MRC รวมถึงการเปิดเผยข้อมูล (Information Sharing) เพื่อประเมินผลกระทบด้านอุทกวิทยา ตะกอน คุณภาพน้ำ นิเวศวิทยาทางน้ำ และการประมง อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
นอกจากนั้น ยังขอให้สำนักงานเลขาธิการ MRC (MRCs) ให้การสนับสนุนการดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Action Plan : JAP) ซึ่งแผนดังกล่าวเป็นผลจากการดำเนินกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าสำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำที่ผ่านมา และขอให้ MRCs นำผลลัพธ์ที่ได้จากการดำเนินกระบวนการที่เกี่ยวกับข้อตกลงในการดำเนินการโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนปากลาย ไปปรับปรุงกระบวนการและเร่งรัดการดำเนินงานต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดด้วย