'คลัง' เผยที่ประชุม AFCDM+3 ชี้! ทิศการค้าและเศรษฐกิจโลกผันผวน

05 เม.ย. 2562 | 07:44 น.


'คลัง' เผย ที่ประชุม AFCDM+3 ชูนโยบายการเงินและคลังประคองเศรษฐกิจ เหตุแนวโน้มเศรษฐกิจโลกผันผวน พร้อมเห็นชอบร่างแผนงานระยะกลางของ ABMI หนุนออกพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นในอาเซียน+3

 

ลวรณ แสงสนิท

 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงว่า นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ประธานร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 (ASEAN+3 Finance and Central Bank Deputies' Meeting : AFCDM+3) เมื่อวันที่ 2-3 เม.ย. 2562 โดยกล่าวว่า ที่ประชุม AFCDM+3 ได้หารือประเด็นด้านเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อเสถียรภาพของภูมิภาคอาเซียน+3 โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานเศรษฐกิจจากองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) และสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office : AMRO) ซึ่งเห็นพ้องว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกในปี 2562 ยังคงสามารถขยายตัวได้ แม้ว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศที่ชะลอตัว รวมทั้งความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

ทั้งนี้ องค์กรระหว่างประเทศ ประเมินว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและเศรษฐกิจจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อเนื่อง (Spillover) มายังเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นถึงปัจจัยบวกของเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคที่ขยายตัวมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาที่สามารถช่วยรองรับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกได้ สำหรับข้อเสนอแนะทางเศรษฐกิจ ที่ประชุมเห็นพ้องว่า ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ควรเตรียมความพร้อมรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และใช้นโยบายการเงินและการคลังเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนในปีนี้

ด้าน การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการให้ความช่วยเหลือทางการเงินภายใต้มาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralisation : CMIM) ซึ่งที่ประชุมรอบนี้ได้หารือและรับทราบความคืบหน้าในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ การปรับปรุงเอกสารแนวปฏิบัติ (Operational Guideline : OG) ซึ่งเป็นการปรับปรุงรายละเอียดการดำเนินการเชิงเทคนิคให้สอดคล้องกับการทบทวนความตกลง CMIM การจัดทำกรอบเงื่อนไขการขอรับความช่วยเหลือ Conditionality Framework และการกำหนดแนวทางการดำเนินการสำหรับ CMIM ในอนาคต นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบแผนการทดสอบกลไกการทำงานของ CMIM (CMIM Test Run) ครั้งที่ 10 ซึ่งจะมีการทดลองเบิกจ่ายและเบิกถอนจริง (Actual Disbursement and Drawdown) โดยจะทดสอบในช่วงครึ่งหลังของปี 2562

ส่วนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ AMRO ที่ประชุม AFCDM+3 ได้เห็นชอบข้อเสนองบประมาณสำหรับการดำเนินการ รวมทั้งแผนงานด้านต่าง ๆ ของ AMRO สำหรับปี 2563 นอกจากนี้ ได้มีมติแต่งตั้งผู้อำนวยการคนใหม่ คือ นาย Toshinori Doi ผู้สมัครจากประเทศญี่ปุ่น มาแทนผู้อำนวยการคนปัจจุบันที่จะหมดวาระลงในเดือน พ.ค. 2562 นี้ และอนุมัติต่ออายุสัญญาของ นาย Hoe Ee Khor หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ รวมไปถึงการหารือถึงกระบวนการคัดเลือกผู้บริหารระดับสูงของ AMRO ในตำแหน่งอื่น ๆ คือ รองผู้อำนวยการที่จะหมดวาระลงในปี 2562 นี้ด้วย

 


สำหรับมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Markets Initiative : ABMI) ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างแผนงานระยะกลางของ ABMI (ปี 2562–2565) ที่ได้แบ่งการดำเนินการออกเป็น 4 แนวทาง ได้แก่ 1.การดำเนินการโดยต่อเนื่อง (Continue) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นของภูมิภาคอาเซียน+3, 2.การดำเนินการเชิงลึก (Deepen) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยมุ่งเน้นสนับสนุนการพัฒนาตลาดตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond Markets Development) และการพัฒนาการเงินเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน, 3.การดำเนินการเชิงขยาย (Expand) เพื่อขยายขอบเขต ABMI ให้ครอบคลุมประเด็นใหม่ ๆ ในตลาดการเงิน และ 4.การส่งเสริมความร่วมมือขององค์กรระหว่างประเทศในภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการดำเนินการหรือมาตรการต่าง ๆ ภายใต้กรอบ AFMGM+3 อย่างครอบคลุมมากขึ้น