"บัญชีเดียว" ยกระดับเอสเอ็มอีไทย

05 เม.ย. 2562 | 07:14 น.


กรมสรรพากรได้ออกประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2558 และพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 595) พ.ศ. 2558 ซึ่งประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2559 เพื่อให้การลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2559 เพื่อให้การจัดเก็บเงินได้สำหรับบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการสนับสนุนให้มีการจัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงของกิจการ (บัญชีเล่มเดียว)

ภายใต้ประกาศดังกล่าว ทางการได้เปิดให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ที่ตั้งขึ้นก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2559 ที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท ต้องจดแจ้งเป็นผู้ประกอบการจัดทำบัญชีสอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ (บัญชีเล่มเดียว) ตั้งแต่ 15 ม.ค. - 15 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา

 


ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ลงทะเบียนในระยะเวลาดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 3 แสนบาทแรก และได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยจัดเก็บในอัตรา 10% ของกำไรสุทธิ เฉพาะส่วนที่เกิน 3 แสนบาทขึ้นไป สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค. 2560 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธ.ค. 2560

ขณะเดียวกันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศให้สถาบันการเงินใช้บัญชีและงบการเงินที่บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน นิติบุคคลที่แสดงต่อกรมสรรพากรในการยื่นรายการภาษีเงินได้ เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมทางการเงินและการขออนุมัติสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562

อย่างไรก็ตาม ในการลงทะเบียนรอบแรกมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาลงทะเบียนทั้งสิ้น 430,000 ราย แต่เพียง 50% หรือประมาณ 150,000-160,000 รายเท่านั้น ที่สามารถจัดทำบัญชีเล่มเดียวได้ กรมสรรพากรจึงได้ออกประกาศพระราชบัญญัติยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มภาษีอากรและความรับผิดทางอาญาเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2562 ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจัดทำบัญชีให้ถูกต้องและสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงและงบการเงินน่าเชื่อถือนำไปใช้ประกอบธุรกรรมทางการเงิน

โดยกรมสรรพากรเปิดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลงทะเบียนแจ้งใช้สิทธิ พร้อมชำระภาษีอากรให้ครบถ้วนทั้งจำนวน (ไม่สามารถผ่อนชำระได้) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 2562 ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งตกรอบแรกด้วยและนิติบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสุดท้ายที่ครบ 12 เดือน ซึ่งสิ้นสุดก่อนหรือในวันที่ 30 ก.ย. 2561 และ 2.ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ของรอบระยะเวลาบัญชีที่สิ้นสุดก่อนหรือในวันที่ 30 ก.ย. 2561 ไว้แล้ว ภายในวันที่ 25 มี.ค. 2562 และไม่เป็นผู้ออกหรือใช้ใบกำกับภาษีอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาที่กรมสรรพากรได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ภายในวันที่ 25 มี.ค. 2562

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการดังกล่าวสามารถยื่นแบบแสดงรายการปรับปรุงการเสียภาษีย้อนหลังให้ถูกต้องโดยไม่ต้องรับภาระเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม

 


……………….

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,458 วันที่ 4-6 เม.ย. 2562 หน้า 02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
'สรรพากร' ขู่ร้านค้า! สอบภาษีธุรกิจใช้เงินสด
'สรรพากร' เปิดโอกาส SMEs ยื่นแบบปรับปรุงภาษีย้อนหลัง โดยไม่เสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม