"หอการค้าอเมริกัน" เผย เจรจาจีน-สหรัฐฯ ตกลงกันได้แล้ว 90% ลุ้นผลประชุมพุธนี้

ทีมเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเจรจาประเด็นที่เป็นปัญหาเพื่อหาทางออกและข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งแหล่งข่าวใกล้ชิดวงในเผยว่า แนวโน้มออกมาในเชิงบวก โดยประเด็นขัดแย้งส่วนใหญ่ได้รับการคลี่คลายแล้ว และประเด็นใหญ่ที่เหลืออยู่ก็เป็นเรื่องของกลไกในการตรวจสอบการปฏิบัติตามพันธกิจในข้อตกลง

ขณะที่ ฝ่ายจีนต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกการขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งได้ปรับขึ้นมาแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา (2561) ฝ่ายสหรัฐฯ เองก็ต้องการเห็นกลไกที่จะมาสร้างความมั่นใจว่า สิ่งที่ได้ตกลงกันไว้แล้วนั้นจะได้รับการปฏิบัติตามเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของทั้ง 2 ฝ่าย

นายมายรอน บริลเลียนท์ รองประธานบริหารฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของหอการค้าอเมริกัน (แอมแชม) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงกันได้แล้วประมาณ 90% แต่ 10% ที่เหลือก็เป็นเรื่องที่ยากที่สุดของการเจรจา ซึ่งจำเป็นจะต้องอาศัยการยอมแลกประโยชน์บางอย่างเพื่อให้ได้บางอย่างจากทั้งจีนและสหรัฐฯ ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตั้งกำแพงภาษีตอบโต้กันไปมา คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตและทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการบางรายทะยานสูงขึ้น

วันพุธนี้ (3 เม.ย.) มีกำหนดการเจรจาระหว่าง นายโรเบิร์ท ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) นายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายจีน ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี หลังจากที่ทั้งสามเจรจากันครั้งก่อนหน้าเมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งหากการเจรจาครั้งนี้ให้ผลที่ดีตามเป้าหมาย ก็เชื่อว่า ผู้นำของทั้ง 2 ฝ่าย คือ ประธานาธิบดี "สี จิ้นผิง" และประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" จะกำหนดพบปะกันอย่างเป็นทางการ เพื่อลงนามในข้อตกลงที่เกิดขึ้น

แต่ในทางตรงข้าม หากสุดท้ายแล้วทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงกันไม่ได้ นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งเชื่อว่า ผลกระทบในวงกว้างจะเกิดขึ้นจากสงครามการค้าที่ไม่ยุติ และเป็นไปได้ที่โลกจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย