'นำสินประกันภัย' ควัก 50 ล้าน! ยกเครื่อง "รีแบรนด์" ต่อกร Disruption

05 เม.ย. 2562 | 10:35 น.


เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โครงสร้างและวิธีการบริโภคของลูกค้าซับซ้อนขึ้น รวมถึงพฤติกรรมเลือกใช้บริการก็เปลี่ยนแปลงไป จนเกิดกระแส Disruption ในทุก ๆ อุตสาหกรรม เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมประกันภัย ที่มี InsurTech เข้ามา ส่งผลให้ บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) แม้จะทำธุรกิจมายาวนานกว่า 71 ปี แต่ก็ถึงเวลาต้องขยับตัวลุกขึ้นมา "รีแบรนด์" ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ตามเทรนด์ Digital Transformation ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ "Better Partner Better Together"

ในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ "วรวัจน์ เจริญชัยพงศ์" กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ NSI เล่าให้ "ฐานเศรษฐกิจ" ฟังว่า บริษัทได้ทุ่มงบประมาณราว 50 ล้านบาท เพื่อใช้ในการ "รีแบรนด์" ช่วง 3-4 ปีนี้ ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ของแบรนด์นำสิน โดยจะเน้นที่คุณค่าของการเป็น "Better Partner Better Together" ซึ่งต้องยกเครื่องทั้งองค์กร เพราะนำสินประกันภัยเป็นแบรนด์ที่มีอายุยาวนานถึง 71 ปี แม้จะเติบโตอย่างมั่นคง แต่เมื่อโลกกำลังก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โครงสร้างและวิธีการบริโภคของลูกค้าก็มีความซับซ้อนและมีพฤติกรรมการเลือกใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงไป

 

'นำสินประกันภัย' ควัก 50 ล้าน! ยกเครื่อง "รีแบรนด์" ต่อกร Disruption

 

บริษัทจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของ Digital Transformation หรือ การเปลี่ยนแปลงธุรกิจ โดยใช้ดิจิทัลมาเป็นหัวใจในการทำงาน ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัทภายนอก (Out Source) เข้ามาพัฒนาโปรแกรม Software ด้านสินไหม และภายในสิ้นปี 2562 จะออก Application มาให้ลูกค้าได้ใช้

"เราต้องสร้างความแตกต่างของแบรนด์นำสินประกันภัยให้ต่างไปจากยุคเก่า ซึ่งการรีแบรนด์ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนโลโกและสีประจำบริษัทเท่านั้น แต่จะเป็นการเปลี่ยนทั้งแนวคิด กระบวนการทางธุรกิจ และทักษะการทำงานของบุคลากร เพื่อรองรับการเข้ามาของ InsurTech ที่อาจเข้ามา Disruption อุตสาหกรรมประกันภัยในยุค Thailand 4.0 จึงมีโรดแมปในการรีแบรนด์ NSI อย่างต่อเนื่อง"

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2562 ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 2,330 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน โดยยังเน้นสัดส่วนธุรกิจประกันภัยรถยนต์ (Motor) 64% หรือคิดเป็นเบี้ย 1,495 ล้านบาท ส่วนธุรกิจประกันภัยอื่น ๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non Motor) จะอยู่ที่ 36% หรือคิดเป็นเบี้ย 835 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของ Non Motor จะเน้นการเติบโตไปที่ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ตั้งเป้าขยายตัว 20-25% ต่อปี หรือราว 100-200 ล้านบาท

ส่วน Motor ยังคงเน้นที่กรมธรรม์รถบรรทุกและรถเก๋งขนาดใหญ่กว่า 2000 ซีซี ซึ่งถือว่าเป็นความถนัดและเป็นความเชี่ยวชาญของบริษัทที่สามารถเจรจาต่อรองคู่ค้า โดยจ่ายค่าสินไหมภายใน 6 วัน ขณะที่ อัตราความเสียหายและค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ไม่เกิน 60% ตํ่ากว่าระบบที่ 65% และติด 1 ใน 10 ของตลาดรถบรรทุก โดยปีนี้ ภายใต้การรีแบรนด์จะมีผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ เช่น รถใหญ่ใจดี และ Gold Plus มาช่วยตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งทั้งหมดจะเน้นให้สอดรับกับคุณค่าของแบรนด์ที่ตั้งใจส่งมอบให้ลูกค้าและคู่ค้า คือ การเป็น Better Partner Better Together ที่เราพร้อมจะก้าวไกลไปด้วยกันในยุค 4.0

"เป้าหมายเราต้องการขยับ Non Motor ขึ้นมาที่ 40% และ Motor 60% เพราะการแข่งขันประกันภาคสมัครใจรุนแรง และเรื่องค่าขาดสิทธิประโยชน์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนด ทำให้ Loss Ratio เพิ่มขึ้น 5%"

ขณะที่ ผลการดำเนินงานปี 2561 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 2,038 ล้านบาท แบ่งเป็น ประกันภัยรถยนต์ 1,409 ล้านบาท สัดส่วนราว 69% และ Non Motor อยู่ที่ 629 ล้านบาท หรือ 31% ประกอบด้วย ประกันอัคคีภัย 30 ล้านบาท ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 26 ล้านบาท และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและอื่น ๆ 573 ล้านบาท ภายใต้กำไรสุทธิ 98 ล้านบาท เนื่องจากเป็นปีที่มีการแข่งขันเรื่องอัตราเบี้ยประกันค่อนข้างสูง


หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับ 3458 ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2562
 

'นำสินประกันภัย' ควัก 50 ล้าน! ยกเครื่อง "รีแบรนด์" ต่อกร Disruption