ธนาคารกรุงไทยระบุเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.77 บาทต่อดอลลาร์ สหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน
ในคืนที่ผ่านมา ตลาดอยู่ในสภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) บนความคาดหวังว่าอังกฤษจะสามารถออกจากสหภาพยุโรปโดย “มีข้อตกลง” ดัชนี FTSE100 ของอังกฤษปรับตัวขึ้นถึง 1.0% เช่นเดียวกันกับดัชนี STOXX50 ของยุโรปที่ปรับตัวขึ้น 0.3%
อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 ของอเมริกาทรงตัวที่ระดับเดิมจากวันก่อนหน้า โดยมีแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาหุ้น Wallgreen ถึง 12.8% หลังผลประกอบการออกมาแย่กว่าคาด ขณะที่ตลาดคาดว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่กำลังทยอยออกมาจะอ่อนตัวลง 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ในวันนี้ มองว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของจีน (Caixin Services PMI) จะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 52.3 จุด จากระดับ 51.1 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ ชี้ว่าภาคการบริการของจีนฟื้นตัวแล้ว สวนทางกับฝั่งสหรัฐฯ ที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิตอุตสาหกรรม (ISM Non-Manufacturing PMI) คาดว่าจะปรับตัวลดลงแตะระดับ 58 จุด ชี้ว่าภาคบริการสหรัฐฯ กำลังชะลอตัว
นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ตลาดจะจับตาความคืบหน้ากระบวนการ Brexit หลังนายกรัฐมณตรีอังกฤษ นางเทเรซา เมย์ เตรียมหารือกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อหาทางออกให้กับภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้น โดยนายกเทเรซา เมย์มีโอกาสที่จะร้องขอให้ทางสหภาพยุโรปขยายกำหนดเส้นตายการแยกตัวให้เกินกว่าวันที่ 12 เมษายน ซึ่งหากสหภาพยุโรปยอมขยายกำหนดเส้นตายจริง จะช่วยลดโอกาสที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง และส่งผลดีต่อทุกฝ่าย
ในส่วนของค่าเงินบาทเปิดสัปดาห์ด้วยการอ่อนค่าตามสกุลเงินเอเชีย ในระยะสั้นตลาดไม่มีทิศทางชัดเจน เพราะนักลงทุนไม่รีบร้อนที่จะกลับเข้าสู่ตลาดเนื่องจากเป็นเดือนที่มีวันทำการไม่มาก เช่นเดียวกับนักค้าเงินส่วนใหญ่ ก็ยังคงรอดูตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐช่วงท้ายสัปดาห์ และความชัดเจนของทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลก่อน
กรอบค่าเงินบาทวันนี้ 31.70 - 31.80 บาทต่อดอลลาร์