"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!

02 เม.ย. 2562 | 08:41 น.


"โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา" เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับภาคเอกชน ดูแลตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ การคัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมมีความสมบูรณ์ของดิน มีการถ่ายทอดความรู้การปลูกและดูแลแปลงข้าวโพด การสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. การทำประกันภัยพืชผลเพื่อประกันความเสี่ยงให้เกษตรกร และการใช้นโยบาย "ตลาดนำการผลิต" ส่งผลทำให้เกษตรกรมีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน สามารถขายได้ในราคาที่เป็นธรรมและช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร


⁍ เกษตรกรปลื้มราคาดี

 

"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!

 

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เผยถึงความคืบหน้าโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561ในพื้นที่ 37 จังหวัดเป้าหมาย มีเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการ 90,375 ราย พื้นที่ปลูกข้าวโพด 764,275 ไร่ การดำเนินโครงการในขณะนี้เข้าสู่ระยะที่ 3 เกษตรกรทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายให้กับสหกรณ์ในพื้นที่ ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2562 ที่ผ่านมา ผลผลิตโดยเฉลี่ย 1,000–1,500 กก./ไร่ และมีบางจังหวัดที่เกษตรกรดูแลผลผลิตตั้งแต่การปลูกจนเก็บเกี่ยวตามหลักวิชาการ ทำให้ผลผลิตต่อไร่สูงถึง 2,200 กิโลกรัม ขณะนี้ ปริมาณข้าวโพดที่สหกรณ์รวบรวมแล้วประมาณ 40,721.13 ตัน มูลค่ารวม 265.89 ล้านบาท คาดว่า ผลผลิตจะออกมากตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. เป็นต้นไป และจะเก็บเกี่ยวได้หมดภายในเดือน พ.ค. 2562 นี้ ซึ่งจากการคาดการณ์ปริมาณข้าวโพดของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมดประมาณ 537,593.23 ตัน และจังหวัดที่คาดว่าจะรวบรวมได้ปริมาณสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ จำนวน 132,951 ตัน รองลงมาเป็น เพชรบูรณ์ จำนวน 57,672 ตัน และพิษณุโลก 55,714 ตัน

 

"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!

 

"กรมสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ดูแลเรื่องการตลาดให้กับเกษตรกร โดยการเปิดจุดรวบรวมและรับซื้อผลผลิตประจำทุกอำเภอ จำนวน 346 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกษตรกร ไม่ต้องขนข้าวโพดไปขายให้กับโรงงานอาหารสัตว์ที่ตั้งอยู่นอกพื้นที่ระยะทางไกล ช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งให้เกษตรกร ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดได้ประสานสหกรณ์การเกษตรทำข้อตกลงร่วมกับบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์ เพื่อรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจว่า มีแหล่งรับซื้อข้าวโพดที่แน่นอนและได้ราคาที่เป็นธรรม"

 

"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!

 

⁍ โรงงานปาดหน้าแย่งซื้อแข่ง

ขณะนี้ ในบางพื้นที่มีเอกชนรายย่อยได้เข้าไปแย่งซื้อผลผลิตจากเกษตรกร แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ยังมีความมั่นใจที่จะรวบรวมข้าวโพดส่งขายให้สหกรณ์ เนื่องจากสหกรณ์มีเครื่องชั่งน้ำหนักที่ได้มาตรฐานและให้ราคารับซื้อที่เป็นธรรม ขณะเดียวกัน ทางสหกรณ์ก็ได้ทำข้อตกลงซื้อขายข้าวโพดกับเอกชนผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ไว้ตั้งแต่ต้นฤดูกาล แล้วให้แต่ละจังหวัดได้ทำแผนรวบรวมข้าวโพดเป็นรายสัปดาห์ ลงพื้นที่สำรวจแปลงข้าวโพดที่รอการเก็บเกี่ยวและวางแผนการเก็บเกี่ยวผลผลิตร่วมกับสมาชิก และสหกรณ์จะต้องบริหารจัดการเครื่องจักรกลการเกษตร รถเกี่ยวและเครื่องสีข้าวโพดสำหรับให้บริการแก่เกษตรกร รวมถึงจะต้องเตรียมพร้อมอุปกรณ์การตลาด ฉาง ลานตาก และโกดัง ที่จะรองรับผลผลิตในช่วงที่ออกมาพร้อมกัน

 

"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!

 

สำหรับข้าวโพดที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวและนำมาขายให้สหกรณ์ ความชื้นเฉลี่ย 28-31% ราคา 6-7 บาท/กก. เมื่อสหกรณ์รับซื้อจากเกษตรกรแล้วจะนำมาอบลดความชื้นเหลือ 14.5% และส่งเข้าโรงงานอาหารสัตว์ในราคา 8.30 บาท/กก. ซึ่งสูงกว่าที่สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยได้กำหนดราคารับซื้อที่หน้าโรงงานไว้ก่อนที่จะเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกข้าวโพด ความชื้นไม่เกิน 14.5% อยู่ที่ 8 บาท/กก. ทั้งนี้ เกษตรกรที่หันมาปลูกข้าวโพดแทนการทำนาปรัง เมื่อหักต้นทุนแล้วจะมีกำไรเฉลี่ย 3,000-4,000 บาท/ไร่  มากกว่าการปลูกข้าวที่หักต้นทุนแล้วจะเหลือกำไรเพียงไร่ละ 700–1,300 บาท เนื่องจากผลผลิตข้าวต่อไร่ต่ำกว่า และต้นทุนในการทำนาสูงกว่าการปลูกข้าวโพด


⁍ สศก. เผย ราคาพุ่ง ในประเทศยังขาดแคลนมาก

 

"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!

 

ด้าน นายฉันทานนท์ วรรณเขจร รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยถึงต้นทุนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2562 (ปีเพาะปลูก 2562/63) พบว่า ลดลง เนื่องจากเกษตรกรลดขั้นตอนในการเตรียมดิน ซึ่งจากเดิมมีการไถแล้วแถกร่อง (ยกร่อง) เปลี่ยนเป็นไถ แล้วไม่ต้องแถกร่อง อีกทั้งมีการนำเครื่องเก็บเกี่ยวมาใช้แทนแรงงานคนมากขึ้น โดยต้นทุนรวมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ไร่ละ 4,385 บาท ลดลงจากปี 2561 ร้อยละ 0.42 (คิดเป็นต้นทุนต่อกิโลกรัม 5.84 บาท ลดลงร้อยละ 1.49)

 

"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!

 

"ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจากปี 2561 เล็กน้อย ที่ร้อยละ 1.08 เนื่องจากเกษตรกรบำรุงดูแลดีขึ้น แต่พบว่า ราคาที่เกษตรกรขายได้ที่ไร่นา เฉลี่ยเดือน ม.ค. ถึง มี.ค. 2562 อยู่ที่ 8.66 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 6.39 เนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศยังมีมาก"

 

"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!

 

⁍ ยัน! มีกำไรมากกว่าทำนาปรัง

 

"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!

 

ด้าน นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า เกษตรกรสามารถนำผลผลิตไปขายได้ที่สหกรณ์การเกษตร หรือ จุดรับซื้อของภาคเอกชนในพื้นที่ สามารถเลือกสถานที่ขายได้หากได้ราคาเป็นที่น่าพอใจ สำหรับราคาจะขึ้นอยู่กับความชื้นเป็นสำคัญ โดยราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชนิดเมล็ดในพื้นที่ (ประมาณปลาย มี.ค. 62) ความชื้น 30% กิโลกรัมละ 6.44 บาท และความชื้น 14.5% กิโลกรัมละ 8.52 บาท เนื่องจากได้กำไรมากกว่าการทำนาปรัง เช่น ใน จ.กำแพงเพชร มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฯ จำนวน 10 ราย รวมกลุ่มกันขายผลผลิต 50 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 6.80 บาท ที่ความชื้น 28% มูลค่ารวม 340,000 บาท

 

"ข้าวโพดหลังนา" ปักหมุดรายได้พุ่งปรี๊ด!