'เพื่อไทย' จี้ กกต. เปิดผลคะแนนหน่วย-แจงบัตรที่เพิ่ม-วิธีคำนวณปาร์ตี้ลิสต์

01 เม.ย. 2562 | 10:33 น.


พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง : ขอให้เปิดเผยผลคะแนนของหน่วยเลือกตั้ง ชี้แจงจำนวนบัตรที่เพิ่ม และเปิดเผยวิธีการคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่ถูกต้อง

ตามที่มีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. 2562 ซึ่งประชาชนทุกภาคส่วนมีข้อสงสัยและตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง การนับคะแนน การเปิดเผยผลคะแนนที่ล่าช้า และมีตัวเลขที่มีข้อสงสัย รวมทั้งข่าวเกี่ยวกับการคำนวณคะแนนบัญชีรายชื่อที่อาจไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยขอแถลง ดังนี้

1.พรรคขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยผลการนับคะแนนรายหน่วยเลือกตั้งโดยพลัน เนื่องจากประชาชนมีสิทธิที่จะตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ จำนวนบัตรดีและบัตรเสีย รวมทั้งคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ เพื่อพิสูจน์ว่า ตัวเลขที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้แถลงนั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 6 พรรค ได้ทำหนังสือยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อเปิดเผยผลคะแนนดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 2562 แต่ขณะนี้ กกต. ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ

 

'เพื่อไทย' จี้ กกต. เปิดผลคะแนนหน่วย-แจงบัตรที่เพิ่ม-วิธีคำนวณปาร์ตี้ลิสต์

 


2.จากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้แถลงเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 ว่า มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 33,775,230 คน (65.96% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง) แต่ 4 วันต่อมา คณะกรรมการการเลือกตั้งกลับแถลงว่า มีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเท่ากับ 38,268,375 คน (74.69% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) จึงมีคำถามว่า ทำไมจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์จึงแตกต่างและมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 4,493,145 คน (ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 8.73%) ซึ่งทราบรายงานข่าวว่า กกต. ชี้แจงว่า บัตรเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นมาถึงกว่า 4 ล้านใบนั้น เป็นเพราะจำนวนผู้มาใช้สิทธิที่แถลงไปในวันเลือกตั้งยังไม่ครบผู้มาใช้สิทธิทั้งหมดและยังไม่ได้รวมจำนวนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตราว 2.3 ล้านใบ และบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรราว 100,000 ใบ

พรรคเพื่อไทย เห็นว่า การเปิดเผยตัวเลขผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ควรสามารถกระทำได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง หลังปิดหีบเลือกตั้ง ไม่ควรปล่อยเวลาให้ผ่านไปถึง 4 วันภาย หลังจากที่มีการเรียกร้องจากหลายฝ่าย ค่อยเปิดเผยเช่นนี้ ทำให้ประชาชนยังเคลือบแคลงและตั้งคำถามว่า กระบวนการจัดการและการนับคะแนนเลือกตั้งมีความโปร่งใสหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่มีคำอธิบายที่รับฟังได้จะเป็นการยากที่ประชาชนจะยอมรับว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เสรีและเป็นธรรมและจะเป็นทางออกให้กับประเทศ

 


3.จากที่มีกระแสข่าวว่า อาจมีการคำนวณคะแนนและจัดสรรที่นั่ง ส.ส. ตามระบบบัญชีรายชื่อให้แก่พรรคขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลถึงการรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล พรรคขอเรียกร้องให้ กกต. ชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ ว่า เป็นไปตามข่าวหรือไม่ พรรคมีความเห็นว่า การคำนวณที่นั่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ให้แต่ละพรรคการเมืองนั้น มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนแน่นอน มิอาจกระทำได้ตามอำเภอใจ โดยต้องกระทำตามบทบัญญัติมาตรา 91 แห่งรัฐธรรมนูญและมาตรา 128 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 91(4) บัญญัติว่า "ถ้าพรรคการเมืองใดมีผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เท่ากับหรือสูงกว่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้ตาม (2) ให้พรรคการเมืองนั้น มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามจํานวนที่ได้รับจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และไม่มีสิทธิได้รับการจัดสรรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และให้นําจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี รายชื่อทั้งหมดไปจัดสรรให้แก่พรรคการเมืองที่มีจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ต่ำกว่าจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้ตาม (2) ตามอัตราส่วน แต่ต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าวมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกินจํานวนที่จะพึงมีได้ตาม (2)" ซึ่งความตอนท้ายของมาตรา 91(4) ที่ระบุว่า "แต่ต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าวมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกินจํานวนที่จะพึงมีได้ตาม (2)" เป็นสาระสำคัญที่ห้ามมิให้จัดสรรที่นั่งให้แก่พรรคที่ไม่มี ส.ส. ที่พึงมีตั้งแต่ต้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง ก็คือ พรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรรที่นั่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเพิ่มเติมนั้น จะต้องเป็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส. พึงมีอย่างน้อย 1 คนขึ้นไปเท่านั้น

ดังนั้น พรรคจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยแนวทางและวิธีการคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่ถูกต้องให้แก่สาธารณชนได้ทราบ มิใช่ปล่อยให้คลุมเครือและมีการตีความบทบัญญัติแห่งกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองของตนเอง