อยู่บนภู : อย่าสร้างเงื่อนไขเผชิญหน้า จุดชนวนความรุนแรง

30 มี.ค. 2562 | 13:44 น.

คุยกับฐานทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน  LINE : @THANSETTAKIJ 
อยู่บนภู : อย่าสร้างเงื่อนไขเผชิญหน้า จุดชนวนความรุนแรง
อยู่บนภู : อย่าสร้างเงื่อนไขเผชิญหน้า จุดชนวนความรุนแรง

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ของไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 โดยล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการ มีเพียงประกาศชื่อผู้สมัครและพรรคที่มีคะแนนนำในแต่ละเขต 350 เขต และคะแนนรวมของแต่ละพรรค โดยพรรคพลังประชารัฐมาเป็นอันดับ1 ที่ 8,433,137 คะแนน เพื่อไทย 7,920,630 คะแนน อนาคตใหม่ 6,265,950 คะแนน ประชาธิปัตย์ 3,947,726 คะแนน ภูมิใจไทย 3,732,883 คะแนน เสรีรวมไทย 826,530 คะแนน ชาติไทยพัฒนา 782,031 คะแนน เศรษฐกิจใหม่ 485,664 คะแนน ประชาชาติ 485,436 คะแนน เพื่อชาติ 419,393 คะแนน รวมพลังประชาชาติไทย 416,324 คะแนน ชาติพัฒนา 252,044 คะแนน พลังท้องถิ่นไท 213,129 คะแนน รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 136,597 คะแนน พลังปวงชนไทย 81,733 คะแนน เป็นต้น

ทั้งหมดแล้วต้องรอการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งจากกกต.ไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.ที่ต้องประกาศรับรอง 95 %ตามกฎหมาย

มีความพยายามจับขั้ว ล็อกขั้วตั้งรัฐบาล โดย 2 พรรคที่มีคะแนนและจำนวนส.ส.มากสุด ต่างประกาศความพร้อมตั้งรัฐบาล โดยขั้วการเมืองภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ออกมาประกาศว่ารวมได้ 255 เสียง ประกอบด้วยพรรคอนาคตใหม่ เสรีรวมไทย ประชาชาติ เพื่อชาติ พลังปวงชนไทย อีกฟากหนึ่งขั้วการนำของพรรคพลังประชารัฐก็ประกาศความพร้อมในการเป็นการนำจัดตั้งรัฐบาลเช่นเดียวกันโดยสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันหนักแน่นว่าสามารถรวบรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งเพื่อผลักดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งนายกรัฐมนตรีอีกคำรบ

ด้วยคะแนนเสียง 2 ขั้วการเมืองที่ออกมาก้ำกึ่งกันมาก เป็นเหตุให้การตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก

ฝ่ายของผู้นำแดนไกลกับเครือข่ายและผู้นำรุ่นใหม่ ที่ประกาศลั่นแพ้ไม่ได้ จึงทุ่มเดิมพันและใช้กลยุทธ์อย่างเต็มที่ เพื่อหวนคืนอำนาจ หวังกลับบ้านแบบเท่ๆโดยต้องตัดวงจรและโค่นอีกฝ่ายลงให้ได้
อยู่บนภู : อย่าสร้างเงื่อนไขเผชิญหน้า จุดชนวนความรุนแรง
อยู่บนภู : อย่าสร้างเงื่อนไขเผชิญหน้า จุดชนวนความรุนแรง

สถานการณ์การเมืองไทยจึงเข้าสู่การเผชิญหน้าอีกคำรบ โดยมีความพยายามเดินเกมที่สุ่มเสี่ยงในการนำไปสู่ความรุนแรง เป้าแรกเริ่มที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)โดยพยายามใช้สื่อในเครือข่าย สื่อโซเชียล สื่อใต้ดิน โจมตีการทำงานของกกต.จัดการเลือกตั้งไม่โปร่งใส โกงเลือกตั้ง และเริ่มมีการเชิญชวนระดมคนให้ออกมาประท้วงกกต.

พร้อมกับการผลิตวาทกรรมตอกย้ำให้ตนเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ประหนึ่งว่าต้องพวกตนเท่านั้นที่เป็นประชาธิปไตยหรือผูกขาดเอาไว้ที่ฝ่ายตน ขณะที่ผลักอีกฝ่ายไปเป็นฝ่ายเผด็จการอำนาจนิยมที่ต้องขับไล่

มีสื่อในเครือข่ายช่วยกระพือโหม อยู่ๆ ก็มีการนำพาดหัวหนังสือพิมพ์ในอดีตในเหตุการณ์นักศึกษาหยุดสอบเพื่อประท้วงรัฐบาล มาโพสต์ใหม่ ไม่มีใครรู้ว่ามีเจตานาอย่างไร แต่จะเป็นเหตุให้คนหวนคิดและจุดชนวนให้คนออกมาชุมนุมประท้วงเหมือนในอดีตหรือไม่

กลุ่มต่างๆ เริ่มส่งสัญญาณเคลื่อนไหว โดยกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็น#ประชาชนอยากเลือกตั้งได้ออกมาขอเชิญคนรักประ​ชาธิปไตย​ชุมนุมทางการเมืองเพื่อรวบรวมรายชื่อปลดกกต. และแสดงพลังสนับสนุน​ให้พรรคที่ชนะเลือกตั้งจัดตั้งรัฐบาล ในวันอาทิตย์​ 31 มีค. 16.00​ -18.00​ น. ที่แยกราชประสงค์ โดยจะมีการตั้งโต๊ะล่าลายชื่อขับไล่กกต.

แน่นอนเมื่อมีการจุดชนวนเรียกผู้คนมาเดินท้องถนน เรามีบทเรียนในระยะใกล้ๆ ก็มีทั้งเหตุการณ์รุนแรงปี 2553 มีประท้วงแล้วเกิดเหตุเศร้าสลด เมื่อมีการเผาบ้านเผาเมือง นำไปสู่การบาดเจ็บล้มตาย ถัดมาเมื่อมีการชุมนุมของกลุ่มกปปส.ก็มีเหตุรุนแรง บาดเจ็บ ล้มตาย เพราะเมื่อการชุมนุมใหญ่บนท้องถนน แน่นอนต้องมีฝ่ายผู้ไม่หวังดี ผู้อาศัยสถานการณ์สร้างความปั่นป่วนขึ้นเช่นเดียวกัน

สถานการณ์ในห้วงนี้ กำลังก่อให้เกิดการสร้างเงื่อนไข เป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้า นำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งตามเส้นทางกำลังเดินเข้าสู่จุดนั้นอีกคำรบ เป็นความรุนแรง ที่สังคมไทยวิตกหวาดผวา ความรุนแรงที่ผู้บริสุทธ์บาดเจ็บล้มตาย เพียงเพื่อให้นักการเมืองเสวยอำนาจ

ทุกคน ทุกฝ่ายต้องไม่ลืมวาทะของใครคนนั้นที่กล่าวเอาไว้ว่า “เมื่อผมไม่เป็นสุข ใครก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่เป็นสุข”

ต้องช่วยกัน ไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้า ให้เกิดความสูญเสียอีกคำรบ !!!

 

 

 


| คอลัมน์ : อยู่บนภู
| โดย : กระบี่เดียวดาย
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3457 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-3 เม.ย.2562