หากกล่าวถึง อิมแพ็ค เมืองทองธานี คนส่วนใหญ่จะนึกถึงการจัดเอ็กซิบิชัน หรือ คอนเสิร์ต ทั้ง ๆ ที่ในพื้นที่นี้มีองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เอาต์เลต ร้านอาหารหลากสไตล์ นี่เองจึงทำให้เราโฟกัสการทำเรื่องของ "เดสติเนชัน มาร์เก็ตติ้ง" เพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์นักเดินทาง กลุ่มไมซ์ ที่มาใช้บริการที่นี่ ทั้งยังมองถึงการขยายธุรกิจในพื้นที่นี้ ที่อิมแพ็คจะขยายได้อีก 10 เท่า ... อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
⇲ พอลล์ กาญจนพาสน์
⁍ คาดปีนี้รายได้แตะ 3.5 พันล้าน
ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมา อิมแพ็คคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ราว 3,200 ล้านบาท เติบโตราว 8-10% โดยมีการเติบโตอย่างชัดเจนจากการจัดคอนเสิร์ตในต่างประเทศที่มีเข้ามามาก การจัดประชุมจากต่างประเทศก็มีงานใหม่เข้ามามากขึ้น ขณะที่ งานในระดับโลคัล ซึ่งจัดประจำก็มีการขยายพื้นที่จัดงานเพิ่มขึ้น และในปีนี้ยังมองว่า อิมแพ็คน่าจะมีการเติบโตของรายได้ไม่ตํ่ากว่า 3,500 ล้านบาท
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะนอกจากการให้บริการพื้นที่จัดงานแล้ว เรายังเป็นออร์แกไนเซอร์ เน้นการร่วมมือกับพันธมิตรจากต่างประเทศและในประเทศ จัดงานใหม่ขึ้นมาเองด้วย ดำเนินการโดยฝ่ายโครงการ Exhibition อาเซียน งานซีบิท อาเซียน ไทยแลนด์ (CEBIT ASEAN Thailand) หรือ CEBIT งานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลยิ่งใหญ่ของอาเซียน ต้นแบบจากประเทศเยอรมนี
⁍ "อาเซียน ซัมมิท" ใช้เต็มพื้นที่
นอกจากนี้ ในปีนี้ อิมแพ็คยังมีงานใหญ่เข้ามาจัดในพื้นที่ อย่าง มอเตอร์โชว์ครบรอบ 40 ปี โดยเฉพาะการจัดประชุม "อาเซียน ซัมมิท" ช่วงเดือน พ.ย. ที่จัดงานเต็มพื้นที่ 1.4 แสน ตร.ม. ส่วนการปิดปรับปรุงของศูนย์การประชุมฯสิริกิติ์ ก็ส่งผลมี 4 งาน ที่ย้ายมาจัดที่อิมแพ็ค เช่น งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ, งานไทยแลนด์ เบบี้ แอนด์ คิดส์ เบสท์ บาย (BBB), งานไทยแลนด์คอฟฟี่ เฟส ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่ามากมาย เพราะงานก็ทยอยไปจัดยังศูนย์ประชุมอื่น ๆ ด้วย
ขณะเดียวกัน ผมยังให้การบ้านกับทีมงานไปว่า อิมแพ็คต้องให้ความสำคัญในการทำเรื่องของ "เดสติเนชัน มาร์เก็ตติ้ง" เพราะวันนี้อิมแพ็คไม่ได้มีแค่พื้นที่แสดงสินค้า หรือ โรงแรม ที่คนรับรู้อยู่แล้ว แต่วันนี้ เรามีร้านอาหารมากมาย เอาต์เลตต่าง ๆ มีศูนย์การค้า อย่าง "คอสโม บาซาร์" ที่เพิ่งขยายเฟส 2 แล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างสร้างทางสะพานเชื่อมเข้าไปยังคอมเพล็กซ์ดังกล่าวด้วย ทั้งภายในยังมีโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ ซึ่งก็รับได้ทั้งกลุ่มไมซ์ที่เดินทางเข้ามาร่วมงานในพื้นที่ สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย ทั้งยังรองรับคนในบริเวณนี้ที่มีกว่า 2 แสนคน ทั้งเรายังมีสนามโกคาร์ท ปัจจุบัน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาใช้บริการโดยเฉพาะ มีทั้งเดินทางมาเล่นโกคาร์ทเองและมาเป็นรถบัสก็มี ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด จากเดิมที่เราวางไว้ว่าน่าจะเป็นคนไทยมาใช้บริการ อีกทั้งยังจะเน้นขยายฐานรายได้จากธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้น โดยเน้นเรื่องของ "เอาต์ไซด์ แคเตอริง" เช่น การไปประมูลงานที่สหประชาชาติ (UN) และยังมองการนำแบรนด์กาแฟจากฮ่องกงเข้ามาในไทยด้วย
⁍ รอส่วนต่อขยายรถไฟสายสีชมพู
สำหรับแผนการขยายการลงทุนใหม่เพิ่มเติมนั้น ในอนาคตมองว่า อิมแพ็คจะขยายได้อีกถึง 10 เท่า เนื่องจากยังมีพื้นที่บริเวณริมทะเลสาบอีกกว่า 500 ไร่ ที่สามารถพัฒนาได้อีก ซึ่งในขณะนี้ ผู้ลงทุนอย่างบางกอกแลนด์และอิมแพ็คเองก็กำลังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดของแผนลงทุนใหม่ ว่า จะพัฒนาอะไรบ้าง ที่จะเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดคนเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งในอีก 2-3 เดือนนี้ น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เพราะบางโครงการที่เราเคยมองว่าจะลงทุน อย่าง สวนนํ้า เมื่อศึกษาจริง ๆ ก็อาจจะยังไม่ถึงเวลา เพราะจำนวนคนใช้บริการอาจจะไม่มากพอที่จะคุ้มลงทุน
ขณะเดียวกันยังต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลในเรื่องของการอนุมัติส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่จะเข้ามายัง 2 สถานี ในอิมแพ็ค ที่ทางบีทีเอสกับบางกอกแลนด์จะเป็นผู้ลงทุนคนละ 1,250 ล้านบาท ซึ่งถ้ามีส่วนต่อขยายเข้ามา เราก็สามารถกำหนดทิศทางการลงทุนและขนาดการลงทุนที่เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจนขึ้น
| สัมภาษณ์ โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3456 ระหว่างวันที่ 28 - 30 มีนาคม 2562