ตลาดเด้งรับเลือกตั้ง 2 เดือนโกย 1.6 แสนคัน
ยอดขายรถยนต์ 2 เดือนแรกปี 2562 พุ่ง 12.9% โตโยต้าเผยการเลือกตั้ง ,ภาพรวมเศรษฐกิจ,มอเตอร์โชว์ เป็นปัจจัยหนุน ขณะที่ยอดผลิตในประเทศเติบโตตาม แต่ส่งออกซบ เนื่องจากคู่ค้าชะลอคำสั่งซื้อ และหวั่นสงครามการค้า
รายงานตัวเลขยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2562 มีจำนวน 160,385 คัน เพิ่มขึ้น 12.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเซ็กเมนต์รถยนต์นั่งเติบโต 13% ด้วยยอด 62,559 คัน, เซ็กเมนต์รถยนต์เพื่อการพาณิชย์เพิ่มขึ้น 12.9% ด้วยยอด 97,826 คัน
ขณะที่ค่ายรถที่ทำยอดขายได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ โตโยต้า 52,302 คัน เพิ่มขึ้น 39.4%, อีซูซุ 27,499 คัน เพิ่มขึ้น 7.8%, ฮอนด้า 18,987 คัน เพิ่มขึ้น 4.1%, มิตซูบิชิ 13,949 คัน เพิ่มขึ้น 9.9%,นิสสัน 11,313 คัน เพิ่มขึ้น 12.1%
ด้านกลุ่มรถหรูเมอร์เซเดส-เบนซ์ ขายได้ 2,059 คัน ลดลง 10.1% ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู 1,376 คัน ลดลง 18.3% และวอลโว่ 314 คัน เพิ่มขึ้น 190.7%
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในไตรมาสแรก มีปัจจัยสนับสนุนได้แก่ งานมอเตอร์โชว์ 2019 ขณะเดียว กันบรรยากาศการเลือกตั้งช่วยให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจมีความคึกคัก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้น ส่วนราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัว ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคดีขึ้นตามลำดับ
“ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายรถเติบโต แสดงให้เห็นว่าแคมเปญ-กิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆสามารถจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถได้ง่ายขึ้น เมื่อรวมกับปัจจัยด้านอื่นๆไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น หรือพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ทำให้เรามีความมั่นใจกับตลาดรถยนต์ อย่างไรก็ดีมีปัจจัยที่ต้องจับตามองคือสงครามการค้าระหว่างประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่บ้าง แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก” นางปวีณา นันทิกุลวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า
การเติบโตของยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ ถือว่าไปในทิศทางเดียวกับยอดผลิตรถยนต์ โดยรายงานจาก กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่าตัวเลขการผลิตรถยนต์รวมตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ทำได้ 362,666 คัน เพิ่มขึ้น 5.29% โดยผลิตเพิ่มขึ้นเกือบทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่รถยนต์นั่ง, รถบรรทุก, รถปิกอัพ 1 ตัน ส่วนรถบรรทุกขนาดตํ่ากว่า 5 ตัน- มากกว่า 10 ตัน ลดลง 5.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
“ยอดที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการผลิตปิกอัพเพื่อการส่งออกในตลาดโลก ส่วนตลาดในประเทศความต้องการของรถเก๋งและปิกอัพก็มีเพิ่มขึ้น” นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าว
ด้านภาพรวมการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปชะลอตัวเล็กน้อย โดย 2 เดือนแรก ทำได้ 182,133 คัน ลดลง 1.17% หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออก 89,869.88 ล้านบาท ลดลง 4.69 % ปัจจัยที่ทำให้ตลาดส่งออกลดลงนั้น เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัว อาทิ ออสเตรเลีย, แอฟริกา, อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ รวมไปถึงผลกระทบจากสงครามการค้าอย่างไรก็ตามตลาดเอเชีย, ตะวัน ออกกลาง, ยุโรป และอเมริกาเหนือ มีตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้น
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,456 วันที่ 28-30 มีนาคม 2562
