โอกาสทอง "พรรครอเสียบ" สวิงจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่

24 มี.ค. 2562 | 10:00 น.

3 บ.ก.ใหญ่เครือเนชั่น ประกอบด้วย "สมชาย มีเสน" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nation Group ร่วมด้วย "วีระศักดิ์ พงศ์อักษร" บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และ "บากบั่น บุญเลิศ" บรรณาธิการอำนวยการหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ยืนยันว่า สถานการณ์การเมืองไทยหลังปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. นี้ จะยังคลุมเครืออยู่สักระยะ จนกว่าจะถึงวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

เนื่องจากกระบวนการเลือกตั้งยังไม่สิ้นสุด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศผลอย่างเป็นทางการได้ภายในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ว่า ต้องให้ประกาศผลภายใน 150 วัน นับตั้งแต่กฎหมายลูกมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2561 ด้วยเหตุนี้กระบวนการเลือกตั้งจะยังคงดำเนินอยู่ จนกว่า กกต. จะรับรองผลเกิน 95%

 

โอกาสทอง "พรรครอเสียบ" สวิงจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่

 

ระหว่างทางนับตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. - 9 พ.ค. นี้ อาจจะมีการเลือกตั้งใหม่ หรือ เลือกตั้งซ่อม เกิดขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลต่อคะแนนเสียง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ในส่วนของ ส.ส.เขต อาจมีความชัดเจน แต่สำหรับอีก 150 ส.ส. นั้น เชื่อว่าจะเกิดการร้องเรียนจากฝ่ายตรงข้ามเกิดขึ้น คนชนะร้องคนแพ้ คนแพ้ก็ร้องผู้ชนะ นั่นเพราะทุก ๆ คะแนนมีความหมาย ยกตัวอย่างเช่น ในเขตเลือกตั้งคะแนนเปลี่ยนประมาณ 100 คะแนน 350 เขต เท่ากับ 35,000 คะแนน เท่ากับได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ครึ่งคน เหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้น ต่างฝ่ายต่างร้องเรียนกัน เรียกว่า "ร้องกันระงม"

 

โอกาสทอง "พรรครอเสียบ" สวิงจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่

 

อีกปรากฏการณ์ที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. คือ บรรยากาศในสนามการเมืองที่จะแตกต่างไปจากบรรยากาศการเลือกตั้งครั้งก่อน จากปกติหลังมีการนับคะแนนก็พอที่จะคาดการณ์ได้ในเบื้องต้นแล้วจากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ (กึ่งทางการ) ในวันรุ่งขึ้น

แต่สำหรับครั้งนี้ กกต. ยังห้ามไม่ให้ใช้คำว่า "ไม่เป็นทางการ" รวมถึงหน้าจอทีวี แต่เดิมจะปรากฏบรรยากาศการจับมือของขั้วการเมืองต่าง ๆ ที่คาดว่าจะได้จัดตั้งรัฐบาล ครั้งนี้ก็อาจไม่ได้เห็นกัน เพราะมีความยุ่งยาก คาดเดาได้ลำบาก เพราะเป็นการคาดการณ์คะแนน ว่า น่าจะได้ทุกเขตเลือกตั้ง ถามว่าทำไมเป็นเช่นนี้ นี่คือ ผลพวงจากการดีไซน์ กฎ กติกา การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ ที่เรียกกันว่า "จัดสรรปันส่วนผสม"

 

โอกาสทอง "พรรครอเสียบ" สวิงจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่

 

"พรรครอเสียบ" ตัวแปรรัฐบาล

อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 บ.ก. วิเคราะห์แล้วยังเห็นตรงกันเรื่องการจัดตั้งสูตรรัฐบาลใหม่ ว่า คงหนีไม่พ้น 3 สูตร ที่เคยวิเคราะห์กันไว้ก่อนหน้านี้ คือ สูตรที่ 1 กลุ่มพรรคขั้วที่ 1 และพรรคใหม่บางพรรค จะได้ ส.ส. 200 ที่นั่ง, สูตรที่ 2 พรรคขั้วที่ 2 จะได้ ส.ส. 110 ที่นั่ง และสูตรที่ 3 คือ พรรคขั้วที่ 3 จะได้ ส.ส. 110 ที่นั่ง

ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตว่า หากพรรคขั้วที่ 2 และพรรคขั้วที่ 3 ได้ ส.ส. มาเป็นอันดับ 2 ซึ่งเดิมคาดว่า 2 พรรคนี้ จะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่เนื่องจากต่างยืนยันเจตนารมณ์ ว่า "ไม่เอากัน" แนวโน้มหรือตัวแปรที่น่าสนใจจึงมาอยู่ที่ "พรรครอเสียบ" ไม่ว่าจะเป็น 3 พรรค ที่คาดว่าจะได้ ส.ส. รวมกันประมาณ 70-80 ที่นั่ง เป็นตัวแปรสำคัญที่สามารถเปลี่ยนใจหันไปจับมือกับพรรคใดก็ได้ รวมถึงพรรคขั้วที่ 1 เพื่อให้ได้ 270 เสียง ได้เสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภาเพื่อให้สามารถบริหารสภาได้

"ถามว่า ได้ 251 เสียง ก็เกินครึ่งหนึ่งของสภาแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า เป็นจำนวนที่สุ่มเสี่ยงเวลาออกเสียงลงมติวาระการประชุมต่าง ๆ ของสภา เนื่องจากกล่าวได้ว่า ไม่สามารถลาป่วย ลากิจ หรือแม้แต่เข้าห้องนํ้าได้เลย เพราะจะทำให้ไม่ครบองค์ประชุม ไม่สามารถผ่านเรื่องสำคัญ ๆ ได้ การจัดตั้งรัฐบาลจึงต้องการเสียงให้ได้อย่างน้อย 270 เสียง ด้วยเหตุนี้ "พรรครอเสียบ" จึงเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล สามารถให้เหตุผลโดยอ้างความชอบธรรมว่า เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ อย่างนี้เป็นต้น" นายสมชาย ระบุ

 

โอกาสทอง "พรรครอเสียบ" สวิงจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่

 

3 บ.ก. ทุบโต๊ะทิ้งทวนโค้งท้ายก่อนคืนหมาหอนเอาไว้เชื่อมั่น ว่า พรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 จะได้ ส.ส. เกิน 100 ที่นั่ง แต่จะไม่ถึง 150 ที่นั่งแน่นอน ส่วนพรรคอันดับ 2 จะได้ ส.ส. 100 ที่นั่ง แบบปริ่ม ๆ ส่วนอันดับ 3 ได้ ส.ส. ไม่ถึง 100 ที่นั่ง

รายงาน โดย ทีมข่าวการเมือง

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3455 ระหว่างวันที่ 24 - 27 มีนาคม 2562

โอกาสทอง "พรรครอเสียบ" สวิงจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่