ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ทำไมต้องสนับสนุน ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรี

21 มี.ค. 2562 | 13:46 น.

ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ทำไมต้องสนับสนุน  ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรี
ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ทำไมต้องสนับสนุน  ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรี

“ผมเลือกและตัดสินใจสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป”

ใกล้ถึงวันที่ต้องตัดสินใจหย่อนบัตรใช้สิทธิเลือกตั้ง เข้าโค้งสุดท้ายเหลือเวลาเพียงไม่กี่วัน ที่พี่น้องประชาชนไทย เจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ต้องตัดสินใจจะเลือกเอาใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยตามรัฐธรรมนูญใหม่ การเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 นี้ มิใช่เพียงเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อย่างเดียว แต่เป็นการเลือกบุคคลเพื่อไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไปด้วยพร้อมๆ กัน

รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทุกพรรคต้องเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีให้ประชาชนได้ทราบด้วย หากเลือกส.ส.ของพรรคนั้นๆแล้ว ส.ส.จะไปโหวตยกมือสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี วงสนทนาทางการเมือง หรือสภากาแฟทั้งหลาย จึงมีข้อสนทนาเรื่องนี้แทบทุกวงการ

ผู้เขียนเองปะหน้าใครก็ถูกสอบถามและขอความเห็นอยู่เสมอว่า “จะเลือกสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี” โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพี่น้องผองเพื่อนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือจากพี่น้องชาว กปปส. ที่เคยร่วมต่อสู้ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัวแทนระบอบทักษิณ หลายท่านกำลังสับสนว่าจะเลือกใครดี ผู้เขียนครุ่นคิดมานานว่าจะพูดและเขียนถึงเรื่องนี้ดีหรือไม่

แต่เมื่อพิจารณาในฐานะที่ตนเป็นพลเมืองไทย มีสิทธิเสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญ เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศนี้คนหนึ่ง เมื่อคิดใคร่ครวญดีแล้วก็ตอบกับตัวเองว่าต้องเขียนและต้องพูดครับ เพราะหากจะเลือกใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำประเทศ เพื่อนำพาชาติบ้านเมืองของเราไปสู่อนาคตที่ดีที่สุด จำเป็นที่เราคนไทยจะต้องมีหลักคิดและแนวทางพิจารณาก่อนตัดสินใจ เลือกสิ่งที่ดีที่สุด

ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ทำไมต้องสนับสนุน  ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรี ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ทำไมต้องสนับสนุน  ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรี
ด้วยเหตุผลที่ได้พิจารณากลั่นกรองดีแล้ว มาเป็นเครื่องชี้นำการตัดสินใจ และต้องมีความกล้าหาญที่จะแสดงจุดยืน ทัศนคติ และวิธีคิดของตน ต่อพี่น้องประชาชนและกัลยาณมิตรทั้งหลาย ด้วยความซื่อสัตย์จริงใจตรงไปตรงมา ผมจึงถือโอกาสใช้ข้อเขียนนี้ตอบคำถามพี่น้องที่ถามผมมาจำนวนมากไปพร้อมๆ กัน โดยขอตอบว่าเลือกตั้งครั้งนี้ ผมเลือกและตัดสินใจสนับสนุนให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี” ต่อไปครับ เหตุผลที่ตัดสินใจมีดังนี้


1.การเลือกตั้งครั้งนี้ แม้มีการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯ มากมายหลายคน แต่ผู้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ครั้งนี้มีเพียง 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายหนึ่งมาจากนายทหารได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรืออีกฝ่ายก็มาจากนักการเมือง นักเลือกตั้ง ซึ่งผู้มีโอกาสนั้นคงมีเพียง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เท่านั้น ที่จะอยู่ในฐานะให้ประชาชนเลือก เมื่อเห็นหน้าดูตัว ศึกษา ทำความรู้จักประวัติและผลงานแล้ว พิจารณาโดยเปรียบเทียบ ครั้งนี้ผมขอเลือกที่มาจากทหารครับ

2. เหตุที่เลือกนายกฯ ที่มาจากนายทหาร เพราะเห็นว่าทหารถูกสร้างขึ้นมาเป็นกองทัพโดยสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นผู้สร้างผู้ให้กำเนิด กับกองทัพ และทหารถูกฝึกและหล่อหลอมให้มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และจงรักภักดี เสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชน แต่นักการเมือง นักเลือกตั้ง ถูกหล่อหลอมมาจากระบอบธุรกิจการเมือง จากพรรคการเมืองที่มีกลุ่มทุนเป็นเจ้าของพรรค สำนึกแห่งความรักชาติ ความจงรักภักดี และความเสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชน มีข้อสงสัยมากและบทเรียนที่ผ่านมาก็ส่อไปในทางไม่น่าไว้วางใจ เรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ทำเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง เพื่อหาทุนให้พรรคหรือเจ้าของพรรคมากยิ่งกว่า แม้จะมีบ้างบางท่านที่ซื่อสัตย์ แต่ก็เป็นส่วนน้อยมาก

ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ทำไมต้องสนับสนุน  ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรี


3. ในด้านความสำนึกรับผิดชอบทางการเมือง นายกฯที่มาจากนายทหาร มักจะมีความละอายและมีสำนึกทางการเมือง และความรับผิดชอบต่อประเทศชาติมากกว่า หากพบว่าบริหารประเทศล้มเหลว ถูกจับได้เรื่องตนเอง ญาติพี่น้องหรือผู้ร่วมงานทุจริตคอร์รัปชัน หรือสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อบ้านเมือง ถูกประชาชนออกมาแสดงประชามติขับไล่ ส่วนใหญ่จะไม่ดื้อด้านดื้อรั้นอยู่ในอำนาจ แตกต่างจากที่มาจากนักการเมือง ประชาชนออกมาขับไล่นับสิบล้าน ยังดื้อด้านลอยนวล กระทั่ง ใช้กำลังสังหารเข่นฆ่าประชาชน ไม่มีความละอาย ความสำนึกรับผิดชอบทางการเมืองตํ่ามาก ดังบทเรียนในอดีตที่ผ่านมา

4. บ้านเมืองของเรายามนี้ ปัญหาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงและความมีเสถียรภาพทางการเมือง เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ และการสร้างความเชื่อมั่นในสายตาของต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พิสูจน์ตนเองในฐานะความเป็นผู้นำประเทศ ที่นำมาซึ่งความสงบเรียบร้อย ทั้งได้รับการยอมรับในเวทีโลกอย่างไม่เคยมีผู้นำท่านใดเคยทำได้มาก่อน ทั้งๆ ที่มาจากการยึดอำนาจการปกครอง

เมื่อพิจารณาว่า ปีนี้นายกรัฐมนตรีไทย จะต้องดำรงตำแหน่งเป็นประธานกลุ่มอาเซียนด้วยแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงน่าจะเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุด คงไม่มีผู้ใดบังอาจมาล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนได้อีก ยิ่งกับพวกคิดล้มเจ้า ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมเชื่อทหารเอาอยู่จัดการได้

5. การเมืองที่มั่นคงและแนวนโยบายที่ต่อเนื่อง ย่อมสร้างความเชื่อมั่น ให้ความเชื่อถือต่อนักลงทุน นักท่องเที่ยว และการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการประกอบสัมมาชีพ การค้าขายของประชาชน การสร้างเงินสร้างงานให้ประเทศและประชาชนมีรายได้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆ ขึ้น การเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือการเลือกโอกาสและความต่อเนื่องของประเทศ จากผลงานที่ได้ทำมาแล้วเป็นเครื่องพิสูจน์ และเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้ การเลือกการเมืองที่ขัดแย้ง คือการเลือกความเสี่ยงที่อันตรายให้กับประเทศ

นี่คือเหตุผลหลักๆ ที่ผมตัดสินใจเลือก และสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ อีกสมัย ส่วนจะได้รับการสนับสนุนให้ได้เป็นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน เป็นคนเลือกใช้สิทธิและตัดสินใจ 24 มีนาคม 2562 ขอให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้เต็มที่ อย่างที่พี่น้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามาแล้วถึง 90%

วันนี้อนาคตของประเทศชาติอยู่ในกำมือท่าน เอาหลักคิดนี้ไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจ เลือกพรรคหรือเลือกคนที่ดีที่สุดในจำนวนที่มีมาให้เลือก ไม่มีใครดีที่สุดสมบูรณ์ที่สุด จงเลือกคนที่เลวน้อยที่สุด มีความดีมากที่สุดก็เพียงพอแล้ว นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงของการเมือง

 

| คอลัมน์ : ข้าพระบาท ทาสประชาชน
| โดย : ประพันธุ์ คูณมี
| ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3454 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 21-23 มี.ค.2562 
ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ทำไมต้องสนับสนุน  ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรี