'อังกฤษ' จูปปาก "7 กลุ่มการค้า" ใหม่ ป้องกันเสี่ยง "เบร็กซิท No-Deal"

21 มี.ค. 2562 | 11:35 น.

กรมเจรจาการค้าติดตามการเจรจาแก้ไขพันธกรณีภายใต้ WTO ของ "อังกฤษหลังถอนตัวจากอียู" ใกล้ชิด พร้อมเร่งเจรจากับทั้งอียูและอังกฤษในประเด็นการแก้ไขตารางข้อผูกพันโควตาภาษีในโควตาสินค้า 31 รายการ เผย อังกฤษปลอดภัยไว้ก่อน เร่งทำข้อตกลงการค้า 7 กลุ่มประเทศ รับมือออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลง

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ทางกรมอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์การเจรจาเพื่อถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษอย่างใกล้ชิด เนื่องจากใกล้ถึงเส้นตายวันที่ 29 มี.ค. 2562 ที่อังกฤษจะต้องออกจากการเป็นสมาชิกอียูอย่างเป็นทางการ โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐสภาอังกฤษได้ลงคะแนนเสียงและมีมติที่สำคัญ 3 เรื่อง คือ อังกฤษไม่ยอมรับข้อตกลงการออกจากสมาชิกอียู (Withdrawal Agreement) ฉบับที่อยู่บนโต๊ะเจรจา ไม่ยอมรับการออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ กับอียูเลย (No-Deal Brexit) และเห็นชอบให้รัฐบาลขอให้อียูยินยอมขยายระยะเวลาการออกจากสมาชิกภาพออกไป ทั้งนี้ การขอขยายระยะเวลาดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากประเทศสมาชิกของอียูทั้ง 27 ประเทศ ซึ่งมีกำหนดจะประชุมเรื่องนี้ร่วมกันในวันที่ 21-22 มี.ค. นี้ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

 

'อังกฤษ' จูปปาก "7 กลุ่มการค้า" ใหม่ ป้องกันเสี่ยง "เบร็กซิท No-Deal" ⇲ นางอรมน  ทรัพย์ทวีธรรม

 

ปัจจุบัน อังกฤษทำการค้ากับอียูเป็นหลัก โดยคิดเป็นสัดส่วน 50% อีก 10% เป็นการค้าที่เกิดภายใต้ความตกลงที่อียูทำกับประเทศอื่น ซึ่งอังกฤษได้ประโยชน์ในฐานะเป็นสมาชิกอียู กรณีการเจรจากับอียูไม่สามารถหาข้อสรุปได้ (No-Deal Brexit) อังกฤษได้เตรียมการเร่งเจรจาจัดทำความตกลงทางการค้ากับประเทศที่มีความตกลงทางการค้ากับอียูก่อน เพื่อให้การค้าของอังกฤษหลังออกจากอียูแล้ว (เบร็กซิท) ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น และยังคงได้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เคยได้รับจากประเทศเหล่านั้นเมื่อครั้งยังเป็นสมาชิกของอียู
 

"ล่าสุด อังกฤษประสบความสำเร็จในการจัดทำความตกลงทางการค้า ที่เรียกว่า Continuity Agreement แล้วกับชิลี หมู่เกาะแฟโร แอฟริกาตะวันออกและใต้ (มาดากัสการ์ มอริเชียส เซเชลส์ และซิมบับเว) สวิตเซอร์แลนด์ อิสราเอล รัฐปาเลสไตน์ และรัฐแปซิฟิก (ฟิจิและปาปัวนิวกินี) (รวม 7 กลุ่มประเทศ) ซึ่งความตกลงเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้เมื่ออังกฤษออกจากอียูโดยสมบูรณ์ สำหรับการค้าที่เหลืออีกกว่า 40% เป็นการค้าระหว่างอังกฤษกับประเทศที่เหลือในโลก รวมถึงไทย ซึ่งขณะนี้ อังกฤษได้เริ่มหารือกับประเทศที่มีการเจรจาจัดทำความตกลงทางการค้ากับอียูเป็นลำดับต้นก่อน อาทิ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เพื่อมิให้การค้าหลังเบร็กซิทสะดุด และเตรียมการสำหรับเจรจาจัดทำความตกลงการค้าระหว่างกันต่อไป

 

'อังกฤษ' จูปปาก "7 กลุ่มการค้า" ใหม่ ป้องกันเสี่ยง "เบร็กซิท No-Deal"
⇲ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

 

นอกจากนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างเจรจากับอียูและอังกฤษ เรื่อง : การแก้ไขตารางข้อผูกพันโควตาภาษีในกรอบองค์การการค้าโลก (WTO) อันสืบเนื่องมาจากเบร็กซิท เกี่ยวกับโควตาสินค้าจำนวน 31 รายการ เช่น มันสำปะหลัง แป้งมันสำปะหลัง ข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวหัก ผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก ปลาแปรรูป พาสตา บิสกิต อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น ที่ไทยเคยได้รับโควตาจากอียูและจะต้องมีการจัดสรรแบ่งโควตาใหม่ภายหลังเบร็กซิท

 

'อังกฤษ' จูปปาก "7 กลุ่มการค้า" ใหม่ ป้องกันเสี่ยง "เบร็กซิท No-Deal"

 

จากข้อมูลในปี 2561 การค้าไทยกับสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) มีมูลค่า 7,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 1.4% ของการค้าไทยกับโลก โดยไทยส่งออก 4,060 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และไทยนำเข้า 2,980 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปอังกฤษ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, ไก่แปรรูป, รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ, อัญมณีและเครื่องประดับ, ผลิตภัณฑ์ยาง, เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนนำเข้าสินค้าของไทยจากอังกฤษ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, น้ำมันดิบ, แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น

ขณะที่ ประเทศคู่ค้าสำคัญของอังกฤษ ได้แก่ สหภาพยุโรป มูลค่าการค้า 5.80 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, สหรัฐอเมริกา 1.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, จีน 9.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, สวิตเซอร์แลนด์ 3.40 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนอร์เวย์ 3.01 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการค้าไทยกับสหภาพยุโรป มีมูลค่า 4.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 9.4% ของการค้าไทยกับโลก โดยไทยส่งออก 2.50 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และไทยนำเข้า 2.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

'อังกฤษ' จูปปาก "7 กลุ่มการค้า" ใหม่ ป้องกันเสี่ยง "เบร็กซิท No-Deal"