ปั้นเน็ตชายขอบเดินหน้า Telehealth นำร่อง8จังหวัด

20 มี.ค. 2562 | 07:11 น.

     สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การกำหนดแนวทางการพัฒนาและการประยุกต์ใช้งานบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชนบท (Telehealth) เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ชนบทผ่านโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) และพื้นที่ชายขอบ (Zone C+)

     นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.)  กล่าวว่า โครงการ Telehealth เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กสทช. กับกระทรวงสาธารณสุข ในการนำระบบโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาและประยุกต์ใช้ในระบบดูแลสุขภาพทางไกลในพื้นที่ชนบท ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ เหมือนผู้ป่วยได้เดินทางไปรับคำปรึกษาจากแพทย์ด้วยตัวเอง ทำให้ได้รับคำปรึกษาได้อย่างทันเวลา และยังช่วยลดความแออัดของจำนวนคนไข้ ลดภาระของแพทย์ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมือง เป็นการยกระดับการรักษาพยาบาลให้ประชาชนในพื้นที่ชนบทมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ปั้นเน็ตชายขอบเดินหน้า Telehealth นำร่อง8จังหวัด

     นายฐากร เปิดเผยว่า ในระยะเริ่มต้นมี 8 จังหวัดนำร่องที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เพชรบูรณ์กำแพงเพชร กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ สุรินทร์ สุราษฎร์ธานี และสงขลา ครอบคลุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 15 แห่ง คลินิกหมอครอบครัว (รพ.สต ขนาดใหญ่) จำนวน 4 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) จำนวน 5 แห่ง และ โรงพยาบาลประจำจังหวัด จำนวน 8 แห่ง รวมถึงศูนย์เฉพาะทางโรคตา ศูนย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง และในอนาคตจะขยายไปสู่พื้นที่ชนบทอื่นทั่วประเทศ

      โครงการ Telehealth เป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารผนวกเข้ากับเทคโนโลยีดิจิตอลและนวัตกรรมทางการแพทย์เป็นระบบโทรคมนาคมเฉพาะทางเพื่อรองรับระบบดูแลสุขภาพทางไกล เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการคัดกรองโรค ระบบให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางไกล เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงบริการทางการแพทย์โดยไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาล และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 

      โดยโครงการจะดำเนินการใน 2 มิติ คือ มิติแรก โรคที่เป็นปัญหาสำคัญและมีผลกระทบต่อประชาชน ได้แก่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) ซึ่งเป็นสาเหตุถึงร้อยละ 75 ของการเสียชีวิตของคนไทย เช่น โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง และมิติที่สอง โรคที่ขาดแคลนแพทย์เฉพาะทาง ได้แก่ โรคทางจอตา เป็นผลสืบเนื่องมาจากโรคเบาหวาน และโรคผิวหนัง

ปั้นเน็ตชายขอบเดินหน้า Telehealth นำร่อง8จังหวัด

       ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดค่าเฉลี่ยแพทย์ 1 คน ต่อจำนวนประชากร 439 คน แต่ประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยแพทย์ 1 คน ต่อจำนวนประชากร 2,065 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 4.7 เท่า ส่วนแพทย์เฉพาะทาง จากผลการศึกษาพบว่า ประเทศไทยมีอัตราส่วนจักษุแพทย์ 1 คนต่อประชากร 47,900 คน และจำนวนแพทย์ผิวหนังในประเทศไทยไม่รวมพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร มีแพทย์ประมาณ 100 คนเท่านั้น ทำให้การเข้าถึงบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ห่างไกลยังขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

   “สำนักงาน กสทช. หวังว่าความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในการผลักดันโครงการTelehealth ครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นชนบทและพื้นที่ห่างไกลให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น” เลขาธิการ กสทช. กล่าว