กนง. มีมติเอกฉันท์! "คง" ดอกเบี้ยอาร์พี 1.75% พร้อมปรับลดประมาณการจีดีพีทั้งปีเหลือ 3.8%

20 มี.ค. 2562 | 07:08 น.

กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ "คง" ดอกเบี้ยอาร์พีไว้ที่ 1.75% ต่อปี พร้อมปรับลดประมาณการณ์จีดีพีทั้งปีนี้ที่ 3.8% เหตุส่งออกชะลอลงตามเศรษฐกิจโลก แม้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องใกล้เคียงศักยภาพตามแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศ

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบาย (อาร์พี) ไว้ที่ระดับ 1.75% ต่อปี โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ใกล้เคียงกับศักยภาพ แม้ว่าจะชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้จากอุปสงค์ต่างประเทศที่ชะลอลงอุปสงค์ในประเทศยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมินไว้เล็กน้อย ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการเห็นว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบันมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ประกอบกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยในประเทศที่สูงขึ้นในปัจจุบัน ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือ อาร์พี ไว้เพื่อรอประเมินผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ให้ชัดเจนขึ้น

แม้ว่าประมาณการเศรษฐกิจไทยจะปรับลดลงบ้าง แต่เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องใกล้เคียงศักยภาพตามแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศ โดยการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามรายได้ครัวเรือน ทั้งในและนอกภาคเกษตร ที่ปรับดีขึ้นและกระจายตัวมากขึ้น ส่วนหนึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ แต่ยังได้รับแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

ภาวะการเงินที่ผ่านมาอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ สภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำภาคเอกชนยังสามารถระดมทุนได้ต่อเนื่อง โดยสินเชื่อขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่ออุปโภคบริโภค ด้านอัตราแลกเปลี่ยนนับจากการประชุมครั้งก่อน เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเคลื่อนไหวสอดคล้องกับสกุลเงินในภูมิภาค ในระยะข้างหน้า อัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มผันผวนจากความไม่แน่นอน ทั้งในและต่างประเทศ คณะกรรมการจึงเห็นควรให้ติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ขณะที่ ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสร้างความเปราะบางให้เสถียรภาพระบบการเงินในอนาคต

 

ทั้งนี้ การลดเสียงด้านเสถียรภาพระบบการเงินในช่วงต่อไปยังจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย ทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสม มาตรการกำกับดูแลสถาบันการเงิน หรือ Microprudential และมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน หรือ Macroprudential

มองไปข้างหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้แรงส่งจากอุปสงค์ต่างประเทศชะลอลง ทั้งนี้ คณะกรรมการจะติดตามความเสี่ยงด้านต่างประเทศ จากทางมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจประเทศอุตสาหกรรมหลักที่จะส่งผลสู่อุปสงค์ในประเทศ รวมทั้งจะติดตามความคืบหน้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯเห็นว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปัจจุบันยังมีความเหมาะสมด้วยจะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมในระยะต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุม กนง. ยังได้ปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือ 3.8% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.0% สาเหตุที่ภาคส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ชะลอลงเหลือ 3.0% ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนที่ 3.8% ส่วนการนำเข้า คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.1% จากเดิมคาดไว้ 3.8%

ส่วนปี 2563 คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.9% โดยคาดการณ์การส่งออกและนำเข้า คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.1 และ 4.8% ตามลำดับ

กนง. มีมติเอกฉันท์! "คง" ดอกเบี้ยอาร์พี 1.75% พร้อมปรับลดประมาณการจีดีพีทั้งปีเหลือ 3.8%