พาณิชย์ชง 13 ประเด็นถกอาเซียน ผนึกกำลังรับมือโลกยุคดิจิทัล

14 มี.ค. 2562 | 11:43 น.

พาณิชย์ เผยผลการประชุมปลัดกระทรวงเศรษฐกิจอาเซียนได้น้ำได้เนื้อ เตรียมชง 13 ประเด็นเศรษฐกิจในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนเมษายนนี้ ขณะค้าไทย-อาเซียนปี 61 กว่า 1.13 แสนล้านดอลล์

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยถึงผลการประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน (High Level Task Force on ASEAN Economic Integration : HLTF-EI) ครั้งที่ 35 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 12-13 มีนาคม 2562 ณ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการประชุมระดับปลัดกระทรวงเศรษฐกิจของอาเซียน ได้ข้อสรุปในประเด็นสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้ 

เห็นชอบประเด็นเศรษฐกิจ 3 ด้าน 13 ประเด็น ที่ไทยเสนอให้อาเซียนร่วมกันดำเนินการให้สำเร็จในปี 2562 เนื่องจากเห็นว่าเป็นประเด็นที่มีความสำคัญและสอดรับกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจการค้าโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องการรับมือกับอนาคต ความเชื่อมโยง และความยั่งยืน และเห็นชอบให้เสนอประเด็นที่ไทยผลักดัน 3 ด้าน 13 ประเด็น ต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะจัดขึ้นในเดือนเมษายนนี้ ณ จังหวัดภูเก็ต  เตรียมความพร้อมอาเซียนในการรับมือกับยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 (4IR) เนื่องจาก 4IR จะสร้างโอกาสและความท้าทายแก่สมาชิกอาเซียน จึงจำเป็นที่อาเซียนต้องเตรียมการรับมือ โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรรองรับ 4IR โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการรายสาขาด้านเศรษฐกิจของอาเซียนในเดือนกรกฎาคม 2562 เพื่อเตรียมแนวทางการรับมือของอาเซียนในเรื่องนี้ต่อไป

พาณิชย์ชง 13 ประเด็นถกอาเซียน ผนึกกำลังรับมือโลกยุคดิจิทัล                                                                                                                                                                นายบุณยฤทธิ์  กัลยาณมิตร

การพัฒนาการบริหารจัดการกฎระเบียบของอาเซียนโดยเฉพาะกฎระเบียบที่มิใช่ภาษีเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการค้าระหว่างอาเซียน เช่น ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความโปร่งใสของข้อมูลการใช้กฎระเบียบ การให้ปรับปรุงกลไกการทำงานภายในอาเซียนให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และสามารถรับมือกับประเด็นใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้ เช่น ขยายขอบเขตอำนาจหน้าที่ขององค์กรรายสาขาให้ครอบคลุมถึงการดำเนินงานในเรื่องที่เป็นประเด็นคาบเกี่ยว และการให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้องของอาเซียนหารือกันและศึกษาถึงประโยชน์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการที่ประเทศคู่ค้าของอาเซียนเสนอประเด็นใหม่ๆ เข้ามาเจรจาในเอฟทีเอ เพื่อใช้กำหนดท่าทีร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเจรจาจัดทำเอฟทีเอ กับประเทศนอกภูมิภาคในอนาคต ซึ่งอาจมีประเด็นใหม่ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และการค้าดิจิทัล แรงงาน สิ่งแวดล้อม เป็นต้น

“ในการประชุมครั้งนี้ ได้เห็นพ้องกันว่าบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศขณะนี้ และการทำงานขององค์การการค้าโลก (WTO) ที่ผ่านมา จำเป็นอย่างยิ่งที่อาเซียนจะต้องร่วมแสดงบทบาทเพื่อให้ WTO ยังคงเป็นองค์กรที่ธำรงไว้ซึ่งการเสริมสร้างระบบการค้าพหุภาคีที่ไม่เลือกปฏิบัติ รักษาความเป็นธรรม และการค้าเสรี

พาณิชย์ชง 13 ประเด็นถกอาเซียน ผนึกกำลังรับมือโลกยุคดิจิทัล

สำหรับประเด็นเศรษฐกิจ 3 ด้าน 13 ประเด็น ได้แก่  การเตรียมอาเซียนรับมืออนาคต เช่น การจัดทำแผนการดำเนินงานด้านดิจิทัล การจัดทำแผนงานด้านนวัตกรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับ 4IR การส่งเสริมการใช้ดิจิทัลในผู้ประกอบการรายย่อย ความเชื่อมโยง เช่น การเชื่อมโยงระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน (ASEAN Single Window) ให้ครบทั้ง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร และ  การสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ เช่น การส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืน การจัดตั้งศูนย์เครือข่ายวิจัย และการพัฒนาพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพและพลังงานชีวภาพในอาเซียน เป็นต้น

อนึ่ง การค้าระหว่างไทยกับอาเซียนปี 2561 มีมูลค่าการค้ารวม 113,934 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13 %โดยไทยส่งออกไปอาเซียนมูลค่า 68,437 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 45,497 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยเกินดุล 22,940 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจุบันการส่งออกของไทยไปอาเซียนคิดเป็นสัดส่วน27% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย

พาณิชย์ชง 13 ประเด็นถกอาเซียน ผนึกกำลังรับมือโลกยุคดิจิทัล